
สงคราม “ทนายตั้ม - ทนายเดชา” ปมใช้คลิปเรียกรับผลประโยชน์ “ผู้กำกับโจ้”
เผยแพร่
“ทนายตั้ม ษิทรา” ท้าคนที่นำคลิปผู้กำกับโจ้ใช้ถุงดำคุมหัวพ่อค้าไปเรียกรับผลประโยชน์ซ้ำว่าหากบริสุทธ์ใจให้ฟ้องศาล ด้าน “ทนายเดชา” ที่เปิดประเด็นเป็นคนแรกและตกเป็นจำเลยสังคม รับคำท้าพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“ทนายเดชา” ท้าคนปล่อยคลิป แจ้งจับ ตบทรัพย์ “ผกก.โจ้”
อ้างคลิป "ผกก.โจ้" นครสวรรค์ นาที 5 ชายหัวเกรียน ทรมานผู้ต้องหา รีด 2 ล้าน "ทนายตั้ม" โพสต์
หลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ออกมาแฉว่า คลิปวิดีโอที่ตนเองนำมาเปิดเผยนั้น ผู้หวังดีเคยส่งให้กับคนหนึ่งช่วยเหลือแต่บุคคลนั้นกลับนำไปเรียกรับผลประโยชน์จากผู้กระทำผิดแทน ทำให้ตนเองต้องเป็นคนออกมาเปิดเผยหลักฐานดังกล่าวแทน
ทนายตั้ม ระบุว่า คลิปวิดีโอที่ตนเองนำมาเปิดเผยเป็นคนแรกนั้น ได้มาจากตำรวจนายหนึ่งที่เป็นคน สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยตำรวจคนนี้บอกว่า ก่อนที่จะนำหลักฐานมาให้ตนเอง ได้ส่งหลักฐานชิ้นนี้ให้คนหนึ่งช่วยก่อน
แต่กลายเป็นว่าคนนั้นกลับไปเรียกรับผลประโยชน์กับผู้กระทำผิด เป็นเงินหลายล้านบาท จึงตัดสินใจนำเรื่องนี้มาส่งต่อให้ตนเองช่วย
ซึ่งตนมองว่าคดีนี้เป็นเรื่องใหญ่หากมีคนที่รู้ข้อมูลแล้วพยายามนำเรื่องนี้ไปเรียกรับผลประโยชน์ ก็จะต้องมีการสอบสวนกันต่อไป แต่กรณีนี้ตนเองคงไม่ได้ไปแจ้งความเป็นคดีอาญาเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายคือผู้ที่ถูกเรียกรับประโยชน์ (หมายถึงผกก.โจ้) แต่หากคนที่เรียกรับผลประโยชน์คนนี้เป็นทนายความ ตนก็คงไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องที่ทางสภาทนายความควรตรวจสอบอยู่แล้วว่ากระทำความผิดจริงหรือไม่
และหากคนที่ถูกพาดพิงถึง ยืนยันว่าไม่ใช่ว่าผู้กระทำผิดก็จะต้องมีการฟ้องศาล ซึ่งตนเองเชื่อว่าหากกระทำผิดจริง ก็คงไม่กล้าฟ้องแต่จะเลือกใช้วิธีการแจ้งความ เพื่อยืดเวลาเนื่องจากการสอบสวนใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะสืบทราบข้อเท็จจริง
“ถ้าเกิดเขาเห็นว่าเรื่องที่ออกมาพูดไม่เป็นความจริงก็ต้องใช้สิทธิ์ทางศาลฟ้องมาผมก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามันเป็นจริงถึงเวลาทุกอย่างก็จะไปแบกันในศาลว่ามีพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือเปล่า ถึงเวลาเขาจะไม่กล้าฟ้องตรงแต่จะใช้วิธีไปแจ้งความแล้วก็ทำเป็นดึงเรื่องว่าแจ้งความแล้วนะแล้วกว่าความจริงจะปรากฏคนก็ไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว พี่จะพูดประมาณว่าถ้าบริสุทธิ์ใจก็ฟ้องตรงไปเลยอย่างนี้เหรอคะ ใช่ฟ้องตรงไปเลยคนจะได้เห็นความจริงจะได้เอาความจริงไปให้ที่ศาลเห็นว่าจริงๆแล้วเนี่ยมีทนายโจรจริงไหมที่คนเขาไว้เนื้อเชื่อใจแล้วมาทำแบบที่ปรากฏอยู่ตามข่าว” ทนายตั้ม กล่าว
เมื่อวานนี้ทนายษิทราได้เปิดห้องคลับเฮ้าส์ ซึ่งในช่วงหนึ่งมีบุคคลที่อ้างว่าเคยตกเป็นเหยื่อของผู้กำกับโจ้ และลูกน้องเข้ามาร่วมสนทนาด้วย โดยบอกว่าเคยถูกเรียกเงินหลังจากถูกจับคดีค้าประเวณีจำนวน 50,000 บาทโดยถูกขู่บังคับให้จ่ายเงิน ในการช่วยคดีเช่นเดียวกัน
หลังจากนี้ทางทนายจะประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐานที่อาจเกิดประโยชน์ พร้อมแนะนำว่าหากมีใครที่เคยเป็นเหยื่อของตำรวจกลุ่มนี้สามารถติดต่อมาที่เพจ FC ทีมงานทนายประชาชนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้
นอกจากนั้นยังบอกว่าขณะนี้ตนเองมีหลักฐานในคดีนี้เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง และเตรียมจะปล่อยออกมา แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ตอนนี้ เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ที่ให้ข้อมูล
ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ที่ตกเป็นเป้าโดนสังคมโจมตี ว่าเป็นคนที่เรียกรับผลประโยชน์ เพราะเป็นคนแรกที่เปิดประเด็นแต่กลับไม่ได้นำคลิปวิดีโอมาเปิดเผย ยืนยันกับทีมข่าวว่าตนเองไม่ใช่บุคคลที่เรียกรับผลประโยชน์อย่างแน่นอน
ซึ่งคลิปวิดีโอตนเองได้มาวันเดียวกันกับที่ทนายษิทราเปิดเผย ก่อนเพียงไม่กี่ชั่วโมงจากเพจข่าวออนไลน์ของเพื่อนที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค3และภาค6 ซึ่งไม่ใช่ตำรวจคนเดียวกับทนายษิทราแน่นอน
หลังจากนี้จะนำหลักฐานไปเข้าแจ้งความและฟ้องต่อศาล เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมบอกว่าถ้าทนายษิทรายังไม่พอใจ อยากให้ทำอะไรเพิ่มเติมก็พร้อมที่จะทำให้เพื่อจะได้คลายข้อสงสัย
“มีข้อความชัดเจนว่าตำรวจเอาข้อมูลไปให้ทนายคลายทุกข์คลิปหลักฐานแต่ไม่เปิดดันไปต่อรองผลประโยชน์สำนักข่าวทุกสำนักก็รุมมาที่ผม ว่าผมไปเรียกเงินจริงไหมมีทนายความบางคนก็ไปโพสต์ว่าเรียก 20 ล้าน ต่าง ๆ ก็พุ่งมาที่ผมทั้งทั้งที่เป็นความเท็จทั้งสิ้นผมดำเนินคดีหมดนะครับร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับไม่ต้องห่วง ไว้วางใจได้
ก่อนหน้านี้ทนายตั้มบอกว่าถ้าเกิดว่าบริสุทธิ์ใจจริงก็จะมีการส่งเรื่องฟ้องศาลไปเลยไม่ใช่แค่แจ้งความเฉยเฉย อ๋อไม่เป็นไรหรอกครับทั้งแจ้งทั้งสองเลยดีครับเดี๋ยวผมทั้งแจ้งด้วยฟ้องด้วยนะครับช่วยโทรไปบอกทนายษิทราด้วยนะ เอาสองอย่างเลยพอหรือยังครับ หรือจะไปยืนหน้ากองปราบหน้าศาล ผมไปยืนได้นะครับเหมือนทนายหิวแสงทั่วไปฟ้องเสร็จแล้วก็ไปยืนถือป้ายด้วยก็ได้นะเดี๋ยวผมจะทำให้” ทนายเดชา กล่าว
เผยภาพ "ผู้กำกับโจ้" ผบ.ตร. กำลังสอบปากคำ ที่กองปราบปราม
ทนายเดชา บอกว่าการที่ ทนายษิทราออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การที่มาพาดพิงถึงบุคคลที่สามหรือตนเองโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงนั้นทำไม่ถูกต้อง ซึ่งหลังจากนี้นอกจากการแจ้งความและฟ้องร้องก็อาจจะมีการยื่นหนังสือถึงสภาทนายความให้ตรวจสอบตนเองด้วย
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline