หนึ่งใน “คนเดินตั๋ว” ซึ่งทำหน้าที่เดินเก็บส่วยให้กลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่า ทำหน้าที่เดินตั๋วในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มาประมาณ 7-8 ปี โดยได้รับค่าตอบแทนการเดินตั๋วใบละ 100 บาท
พฤติกรรมของขบวนการเรียกเก็บส่วยแรงงานต่างด้าว จะเริ่มจากอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจับกุม แรงงานต่างด้าวที่ไม่มีบัตร บัตรหมดอายุ หรือทำอาชีพต้องห้าม จากนั้นจะพาขึ้นรถเพื่อไปเจรจาต่อรองให้ส่งส่วยรายเดือน โดยข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะถูกจับผลักดันกลับประเทศ ทำให้หลายคนกลัว
เร่งสอบคลิปอ้างตร.เก็บส่วยแรงงานต่างด้าว
ตำรวจแฉกันเอง “ส่วยภูเก็ต” มี ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พัวพันเพียบ
การเก็บส่วยจะมีตัวแทนแรงงานเป็นคนรวบรวม เงินแต่ละเดือนส่งให้กับ “คนเดินตั๋ว” เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นหน่วยงานรัฐทั้งในและนอกพื้นที่
พอแรงงานตกลงยอมจ่ายเงิน ก็จะได้รับบัตรที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ เพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานแสดงว่าแรงงานคนดังกล่าวได้จ่ายรายเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเรียกเก็บจากหน่วยงานเดิมซ้ำอีก
ลักษณะบัตร หรือที่เรียกว่าตั๋ว เป็นกระดาษขนาดไม่ใหญ่ มีตราปั้มเป็นตัวการ์ตูนรูปสัตว์ เช่น นก แมว หมา มีตัวอักษรย่อชื่อคนเก็บ เช่น ป. ปวัน หรือ ส. เสถียร เขียนกำกับไว้ โดยกระดาษจะเปลี่ยนสีทุกเดือน
แรงงานต่างด้าวที่ถูกเรียกเก็บส่วย แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรงงานที่ถูกกฎหมาย แม้จะมีบัตรทำงาน หรือ พาสปอร์ต แต่ต้องการทำงานอาชีพต้องห้าม ก็จะต้องยอมจ่ายส่วยเดือนละ 600 บาท
และอีกกลุ่มคือ แรงงานผิดกฎหมาย ที่ไม่มีบัตรอะไรเลย จะต้องจ่ายรายเดือนคนละ 1200 บาท หากใครไม่จ่ายจะถูกแจ้งจับ และผลักดันกลับประเทศ
จากข้อมูลพบว่า กลุ่มคนที่เรียกเก็บส่วยไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว แต่มีมากกว่า 10 กลุ่มทั้งในและนอกพื้นที่ หากแรงงานหนึ่งคน ต้องจ่ายส่วยให้กลุ่มคนทั้งหมด 10 คน ซึ่งเรียกเก็บขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาท ก็จะต้องจ่ายส่วยตกเดือนละ 3,000 – 4,000 บาท
ทีมข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปยัง แรงงานต่างด้าวในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า ปัญหาการเรียกเก็บส่วนแรงงานนั้นมีเกือบทุกพื้นที่ โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่ก็คล้ายคลึงกัน และเรทราคาที่เรียกเก็บก็อยู่ที่หลักร้อยถึงหลักพันเหมือนกัน หากแรงงานคนไหนใบอนุญาตหมดอายุ หรือทำอาชีพต้องห้าม ก็จะต้องจ่ายค่าส่วยแพงขึ้น และเมื่อมีการจ่ายเงินแล้วก็จะได้รับตั๋วไว้เป็นหลักฐาน
โดยเฉพาะแต่ช่วง 2 เดือนนี้ ที่การระบาดของโควิด-19 ทำให้แรงงานต่างชาติไม่สามารถเดินทางไปต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้ ก็ยิ่งเป็นช่องว่างของกลุ่มคนที่เรียกเก็บส่วยมากขึ้น
ทีมข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปยัง แรงงานต่างด้าวในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า ปัญหาการเรียกเก็บส่วนแรงงานนั้นมีเกือบทุกพื้นที่ โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่ก็คล้ายคลึงกัน และเรทราคาที่เรียกเก็บก็อยู่ที่หลักร้อยถึงหลักพันเหมือนกัน หากแรงงานคนไหนใบอนุญาตหมดอายุ หรือทำอาชีพต้องห้าม ก็จะต้องจ่ายค่าส่วยแพงขึ้น และเมื่อมีการจ่ายเงินแล้วก็จะได้รับตั๋วไว้เป็นหลักฐาน
โดยเฉพาะแต่ช่วง 2 เดือนนี้ ที่การระบาดของโควิด-19 ทำให้แรงงานต่างชาติไม่สามารถเดินทางไปต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้ ก็ยิ่งเป็นช่องว่างของกลุ่มคนที่เรียกเก็บส่วยมากขึ้น