ตร.ย้ำ ถ้าโดนแก๊งทวงหนี้ ข่มขู่อ้างเราเคยค้ำประกันทั้งที่ไม่เคยทำธุรกรรม อย่าหลงเชื่อ
สาววัย 22 ร้อง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน 4 แสน อ้างติดฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2564 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า กสทช. ได้ทำงานประสานกับโอเปอเรเตอร์ทุกรายร่วมกันตรวจสอบ SMS หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ ลามกอนาจาร และได้ดำเนินการปิด SMS หลอกลวงไปแล้วกว่า 600 Sender Name และได้ส่งข้อมูลมิจฉาชีพที่ส่ง SMS พนัน หลอกลวงกว่า 400 Sender Name ให้กับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย
ซึ่งจากการขยายผลตรวจสอบของ บช.สอท. พบมี 131 Sender Name ที่มีบัญชีม้า ที่ใช้ในการกระทำความผิด เป็นบัญชีที่เปิดเพื่อให้ประชาชนโอนเงินเข้ามาเล่นพนันออนไลน์ หลอกให้เล่นหุ้น เทรดสกุลเงินดิจิทัล ฯลฯ ซึ่งในการนี้ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 131 ราย ตรวจยึดบัญชีธนาคารได้จำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 317 ล้านบาท หลังจากนี้ สำนักงานฯ จะส่งรายชื่ออีกกว่า 200 Sender Name ให้ บช.สอท. ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
นายไตรรัตน์ กล่าวต่อว่า การแถลงข่าวในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหา SMS หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ ลามกอนาจาร ซึ่งทั้งสองหน่วยงาน รวมทั้งโอเปอเรเตอร์ทุกราย จะเร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ ทั้งนี้ในการดำเนินการจนไปสู่การจับกุมมิจฉาชีพจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการให้ข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบไปถึงมิจฉาชีพเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ ยังต้องขอให้ประชาชนระมัดระวัง เมื่อได้รับ SMS ที่มีลิงก์ขอให้ตั้งสติ อย่าเพิ่งตกใจ หรือเชื่อในข้อความที่ได้รับ อย่ากดลิงก์ที่ส่งมากับ SMS ทันที แต่ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของ SMS ก่อน สังเกตลิงก์ หรือ url ให้มั่นใจก่อนกด และอย่ากรอกข้อมูลส่วนตัว Username Password หรือ OTP ที่ใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับธนาคารผ่านลิงก์ที่ได้รับเด็ดขาด เพื่อระมัดระวังไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือมิจฉาชีพ ที่จะเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนแล้วนำไปทำธุรกรรม ถอนเงินจากบัญชีของท่านจนหมด หรือนำไปก่อความเสียหายได้
“หากประชาชนได้รับ SMS หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ ลามกอนาจาร หรือได้รับในรูปแบบโทรศัพท์ ขอให้เก็บข้อมูล แคปหน้าจอโทรศัพท์ หรืออัดเสียงเพื่อเป็นหลักฐานแล้วแจ้งข้อมูลมาที่ Call Center ของสำนักงาน กสทช. โทร. 1200 ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือแจ้งไปยัง Call Center ของค่ายมือถือที่ท่านใช้งานอยู่ เพื่อสำนักงาน กสทช. จะได้รวบรวมข้อมูลตรวจสอบ และส่งให้ บช.สอท. ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป” นายไตรรัตน์ กล่าว
