
"เจ้าคุณแจ็ค"แจง ถุงยาง-เบียร์ เป็นของลูกศิษย์
เผยแพร่
กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบนำกำลังบุกค้นกุฎิ "เจ้าคุณแจ๊ค" เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน และรองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก หลังพบพฤติกรรมเชื่อมโยงทุจริตเงินทอนวัดและสมรู้ร่วมคิดกับผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เบื้องต้นเจ้าตัวสารภาพมีเอี่ยวขบวนการ แต่จำไม่ได้ว่าเงินอยู่ไหนบ้าง
ตำรวจสอบสวนกลางและเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านตรวจสอบทุจริตทั้ง ป.ป.ช.และ ป.ป.ท.นำหมายค้นบุกไปที่กุฎิของพระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนและรองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก เนื่องจากการสืบสวนจนพบพฤติกรรมของเจ้าคุณแจ็คว่ามีส่วนพันพันกับการทุจริตเงินทอนวัดตั้งแต่ปี 2550-2559
ระหว่างการตรวจค้นกุฏิ ตำรวจไม่พบของกลางที่เชื่อมโยงถึงคดีเงินทอนวัด แต่กลับไปพบหลักฐานอื่นที่น่าตกใจ คือ ถุงยางอนามัยในชั้นวางของติดกับหัวเตียงเจ้าคุณแจ๊ค เหล้าและเบียร์หลากหลายยี่ห้อ
เงินทอนวัด มีความหมายว่าอะไร ?
บุกรวบ “เจ้าคุณแจ๊ค” คากุฎิ ปมเงินทอน เจอซุกถุงยาง-เหล้าบนหัวนอน
รวมถึง เสื้อผ้าของเด็กผู้ชาย ซึ่งหลักฐานส่วนนี้เจ้าคุณแจ๊คปฏิเสธทั้งหมดว่าเป็นของลูกศิษย์วัด ไม่ใช่ของตัวเอง ส่วนเสื้อผ้าเด็ก ก็เป็นของเด็กที่เก็บมาเลี้ยงเมตตาเหมือนหลาน
สำหรับพฤติกรรมของเจ้าคุณแจ็คจากการสืบสวนพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหา ตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัดก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างหลบหนีคดี ได้ร่วมมือกับเจ้าคุณแจ๊ค ทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธ ที่อนุมัติให้วัดต่างๆใน พื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด งบประมาณ 123 ล้านบาท
โดยเจ้าคุณแจ๊คจะไปตกลงกับแต่ละวัดว่า ถ้าได้เงินมา ให้กดเงินสดออกมาทั้งหมด และนำเงินก้อนหนึ่งส่งคืนให้เจ้าคุณแจ๊ค และจึงค่อยแบ่งเศษเงินที่เหลือเล็กน้อยให้กับวัดต่างๆไป โดยที่เงินส่วนใหญ่นั้น เจ้าคุณแจ๊คและนายนพรัตน์นำไปแบ่งกัน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเงินทอนที่ดึงกลับมาสูงถึง 110 ล้านบาท จากเงินทั้งหมด 123 ล้านบาท โดยเจ้าคุณแจ๊คได้นำเงินบางส่วนไปแปลงเป็นทรัพย์สินอื่นๆ แล้วเอาชื่อคนในครอบครัวมาถือครองแทน
หลังตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการล้างบาปอลัชชีทุจริตเงินทอนวัด โดยมีเจ้าคุณแจ็คเป็นเป้าหมาย มีความเห็นจาก พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
ระบุว่า หากหลักฐานบ่งชี้ว่าเจ้าคุณแจ็คโกงเงินส่วนนี้จริง ต้องขาดจากการเป็นพระ หรือเรียกว่า ปาราชิก ซึ่งทั้งหมดต้องการการสอบสวนให้ชัดเจนก่อน
โดยพระพระพยอมได้กล่าวเตือนวงการสงฆ์ว่า เวลานี้มีการจับสึกพระภิกษุไปหลายรูป ทั้งชั้นเทพ ชั้นพรหม ต้องติดคุกติดตารางกัน ซึ่งถือว่าไม่ตรงกับเป้าหมายของการบวชที่ต้องพยายามลด ละ เลิก แต่กลับมาหาเงินหาทองกัน
เบื้องต้นมีรายการว่าหลังตำรวจนำตัว "เจ้าคุณแจ๊ค" ไปสอบปากคำ เจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าสนิทสนมกับนายนพรัตน์ และเป็นผู้ไปเจรจารวบรวมเงินคืนจากเจ้าอาวาสวัดต่างๆมาจริง แต่ตอนนี้ยังปฏิเสธว่าจำไม่ได้ ว่านำเงินทั้งหมด แบ่งให้ใครไปเท่าไหร่ และอยู่ที่ไหนบ้าง
อุตุฯ เตือนไทยอากาศแปรปรวน เจอพายุฝน 18-21 ก.พ. ก่อนอุณภูมิลดฮวบ 4-6 องศา
แม่ร่ำไห้หน้า ทบ.ลูกถูกซ้อมตาย 5 ปีคดีไม่คืบ
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline