แพทย์ยัน DNA ชี้ชัดใครเป็นพ่อ-แม่เด็ก

โดย PPTV Online

เผยแพร่

กลายเป็นคดีที่สร้างความประหลาดใจ สำหรับกรณีที่เด็กหญิงวัย 12 ตั้งท้องปริศนา โดยแม่อ้างว่าลูกสาวถูกเพื่อนบ้านข่มขืน พอตรวจดีเอ็นเอ พบไม่ตรงกับชายที่ถูกกล่าวหา แต่กลับไปตรงกับผู้เป็นพ่อแท้ๆ

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่จ.มุกดาหาร หลังแม่ของ“น้องบี”อายุ 12 ปี แจ้งตำรวจ สภ.ดงหลวงให้ดำเนินคดีกับเพื่อนบ้านที่ชื่อ นายไก่ อายุ 51 ปี โดยอ้างว่า นายไก่ ล่อลวงลูกสาวไปข่มขืน จนตั้งท้องและคลอดเด็กออกมา เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2564 

แต่คดีก็กลับตาลปัตร และเป็นที่สงสัย เมื่อตำรวจเรียกตัว “นายไก่” คนที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ แต่เขาปฏิเสธว่าไม่ใช่คนที่ข่มขืน “น้องบี” และลูกของน้องบีก็ไม่ใช่ลูกของเขา ที่สำคัญตัวนายไก่ เรียกร้องให้ตำรวจตรวจดีเอ็นเอของเด็กที่เกิดมา

ผลการตรวจดีเอ็นเอครั้งแรก ปรากฎว่าเด็กไม่มีความเกี่ยวพันกับ “นายไก่” แต่ครอบครัวของ “น้องบี” ไม่เชื่อและยังข้องใจ เพราะตัว “น้องบี” ผู้เสียหายเองก็ยืนยันว่าถูกนายไก่ข่มเหง จึงร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยัง “หมอปลา” และมีการตรวจดีเอ็นเอ ซ้ำเป็นรอบที่สอง แต่คราวนี้ ตำรวจเก็บตัวอย่างคนในครอบครัวไปตรวจเพิ่มด้วย และเมื่อผลออกมา ก็พบว่าดีเอ็นเอของเด็กไม่ตรงกับ “นายไก่” แต่กลับไปตรงกับพ่อแท้ของน้องบี ซึ่งก็เป็นตาของเด็กนั่นเอง    

ทำให้ทางครอบครัว โดยเฉพาะ แม่ของ “น้องบี” ข้องใจผลการตรวจอย่างมาก เพราะขัดแย้งกับที่ลูกสาวปฏิเสธว่า คนที่ข่มเหงคือนายไก่  แต่ทำไมผลตรวจจึงออกมาว่า ดีเอ็นเอไม่ตรงกับ นายไก่ แถมยังไปตรงกับพ่อแท้ๆ ที่สำคัญเมื่อขอดูเอกสารการตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ก็ปฏิเสธ อ้างว่าเป็นเอกสารทางราชการซึ่งแม่ของ “น้องบี” มั่นใจว่าสามีไม่มีวันทำร้ายลูกสาวแท้ๆ อย่างแน่นอน 

ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้าน สังเกตบรรยากาศพบว่า ชาวบ้านต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างมาก  หลายคนบอกว่าที่ผ่านมาพ่อแท้ ๆ ของน้องบี ไม่เคยมีพฤติกรรมส่อไปในทางชู้สาวกับลูกตัวเอง และดูเป็นคนรักครอบครัว ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่  จึงรู้สึกแปลกใจที่เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้น

ส่วนตัว “นายไก่” เพื่อนบ้านที่ถูกกล่าวหาว่า ชาวบ้านก็ไม่เชื่อว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสมเช่นกัน เพราะรู้จักกับครอบครัวของ “น้องบี” เป็นอย่างดี  ที่สุดแล้วชาวบ้านก็คงต้องรอให้ตำรวจคลี่คลายคดีให้กระจ่าง

ขณะที่ “นายไก่” เพื่อนบ้านที่ถูกกล่าวหา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า รู้สึกโล่งใจ หลังถูกกล่าวหาก็เป็นทุกข์ รู้สึกอาย และเครียด ไปไหนก็กลัวไปหมด การงานก็ไม่ได้ทำ ต้องขายวัว เพื่อเอาเงินมาดูแลครอบครัว    

ด้านคดี ตอนนี้ตำรวจได้คุมตัว พ่อของ “น้องบี” และแจ้งข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่อยู่ภายใต้การอุปการะ

 ซึ่งถึงขณะนี้ พ่อของน้องบี ก็มีอาการเครียด ไม่พูดจากับใครเบื้องต้นตำรวจคัดค้านการประกันตัว

เรื่องนี้ประเด็นสงสัยคือผลการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อธิบายว่า การตรวจ DNA ของเด็กที่คลอดออกมา สามารถบ่งบอกได้ชัดเจนว่า ใครเป็นพ่อ-แม่ เพราะเด็กจะมี ดีเอ็นเอ ของพ่อและแม่อย่างละครึ่ง

ดังนั้นการตรวจพบ DNA พ่อแท้ๆ ของน้องบี ในตัวเด็กที่เกิดมา ก็แสดงว่า พ่อเคยมีเพศสัมพันธ์กับ “น้องบี” และเป็นพ่อของเด็กที่เกิดมาด้วย

รศ.นพ.วีระศักดิ์ ระบุอีกว่า แต่ผล DNA ที่ออกมา ไม่ได้หมายความว่า “นายไก่” เพื่อนบ้านที่ “น้องบี” ให้การว่าเป็นคนข่มขืน จะพ้นผิด เพราะอาจเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระ  คดีลักษณะนี้ความจริงแล้วต้องตรวจช่องคลอดเด็ก ตั้งแต่เกิดเหตุทันที เพราะจะมีร่องรอยว่าใครเป็นผู้กระทำชำเราการมาตรวจ DNA เด็กที่เกิดมา แล้วไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัย จึงไม่สามารถมัดตัวได้ ต้องใช้หลักฐานอื่นประกอบ

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ