นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งตอนนี้ เป็นอดีตทนายความของแม่แตงโมแล้ว เขายืนยันว่า พูดคุยกับแม่ของแตงโมแล้ว และ แม่ก็ยอมรับการตัดสินใจลาออกของเขา
เมื่อถามว่า ลาออกเพราะ อะไร ทนายเดชา ยก 3 เหตุผล บอกว่า เพราะ มีความเห็นทางคดีไม่ตรงกัน ทนายเดชา บอกว่า เขาเชื่อว่าคดีของแตงโม เป็นคดีประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่แม่แตงโม เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม
เฉลยแล้ว! ทนายเดชา เผย แม่ยอมรับส่งมือถือแตงโมไปอเมริกาให้บังแจ็ค
ไทม์ไลน์ ส่งโทรศัพท์ "แตงโม" ไปอเมริกาให้บังแจ็ค
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ แม่นำโทรศัพท์มือถือของแตงโมไปให้บังแจ็ค ทนายเดชา เชื่อว่า บังแจ็ค อาจจะนำไปหาผลประโยชน์เพื่อแบล็คเมล์คนอื่น เพราะ ทราบมาว่า ในโทรศัพท์แตงโมมีภาพเกี่ยวข้องกับนักธุรกิจ นักการเมือง และอีกหลายคนกว่า 30 ภาพ ส่วนที่ก่อนหน้านี้ บังแจ็ค บอกว่า ทนายเดชา รู้อยู่แล้วที่แม่ส่งโทรศัพท์ไปให้เขา ทนายเดชา ยืนยันว่า ไม่จริง ไม่เคยมีการหารือกันก่อน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขารู้ว่า โทรศัพท์ไปอยู่กับบังแจ็ค เพราะ ว่า แม่ไปให้สัมภาษณ์ว่าโทรศัพท์อยู่กับตัวเขา เขาจึงถามเรื่องนี้กับแม่ และแม่จึงยอมรับว่าให้บังแจ็คไป
ส่วน อีกหนึ่งเหตุผลที่ทนายเดชา ตัดสินใจเลิกเป็นทนายความให้แม่แตงโม คือ แม่ต้องการให้ทนายเดชาดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เพราะโพสต์พาดพิงและต่อว่าแม่ แต่ทนายเดชา บอกว่า เขาเป็นเพื่อนกัน พร้อมแนะนำว่า ให้แม่ไปให้ทนายความคนอื่นฟ้องดีกว่า ซึ่งทำให้แม่ไม่พอใจ
หลังถอนตัวออกจากคดี ทนายเดชา บอกว่า รู้สึกโล่งใจและหมดทุกข์ เพราะที่ผ่านมาเริ่มมีความเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง และตั้งแต่เข้ามาทำคดีนี้ยอมรับว่าถูกด่าเยอะ พร้อมยอมรับว่าตั้งแต่ทำคดีมากว่า 30 ปี ไม่เคยเจอลูกความแบบนี้ ตอนนี้ถือว่าหมดเวรหมดกรรม เพราะ ที่ผ่านมารับทำคดีนี้โดนด่าหนักมาก
สำหรับการทำหน้าที่ของทนายเดชา เขาบอกว่า จะยุติหลัง คดีความถึงชั้นอัยการ ทนายเดชา ฝากถึง แม่ของแตงโม ว่า ขอให้ระมัดระวังคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือทางคดี เพราะไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือจะช่วยจนจบคดีหรือไม่ เชื่อว่าคดีนี้คงต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่า 5 ปี และหากแม่จะขอให้กลับมาช่วยเหลือทางคดีอีกครั้งตนก็ยินดีแต่ขอดูเป็นประเด็นไป และจะขอให้แม่ไปสาบานในโบสถ์คริสต์ก่อนว่าถ้าหากให้กลับมาเป็นทนายให้แม่จะต้องพูดความจริง