สภาทนายฯ เผย ความผิด"ทนายไก่หมุน" อาจติดคุกหลายสิบปี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีสะเทือนวงการทนายความ หลังพ่อค้าไก่หมุนวัย 30 ปี ปลอมเป็นทนายความขึ้นว่าความในศาล แต่สุดท้ายมาโดนจับได้ แล้วพอกลายเป็นข่าวดัง ทำให้โลกออนไลน์พากันขนานนามว่าเป็น “แฟรงค์ อบาเนล เมืองไทย” ล่าสุด สภาทนายความ แถลงยืนยันไม่มีชื่อของผู้ต้องหาอยู่ในสารบบทนายความ พร้อมช่วยเหลือผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อทนายเก๊รายนี้ทุกคน

กลายเป็นเรื่องฮือฮาเป็นอย่างมาก กรณี นายพรเทพ อายุ 30 ปี ชาวกำแพงเพชร อาชีพพ่อค้าไก่หมุนถูกจับกุม เนื่องจากปลอมตัวเป็นทนายความ และได้ขึ้นว่าการในศาลจริง ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเคยว่าความชนะอัยการมาแล้ว อีกทั้งยังปลอมตั๋วทนาย และปลอมคำพิพากษาหลอกลูกความ

เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นข่าว หลายคนต่างพากันขนานนามให้เขาว่าคือ ‘แฟรงก์ อบาเนล’ เมืองไทย ตามชื่อของอดีตนักต้มตุ๋นขั้นเทพชาวสหรัฐ ที่ปลอมตัวเป็นกัปตันขับเครื่องบิน ทนายความ แพทย์ ทั้งที่ไม่ได้มีความรู้ หรือเรียนจบด้านนั้นๆ มาจริง

สภาทนายความ แจ้งดำเนินคดี “พ่อค้าไก่หมุน” ปลอมแปลงใบอนุญาต

พ่อค้าไก่หมุน ปลอมเป็นทนายความ มีทั้งแพ้ทั้งชนะ คดีล่าสุดชนะอัยการ

 

ก่อนที่เรื่องราวของเขา ถูกนำมาสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่อง Catch me if you can นำแสดงโดยพระเอกชื่อดัง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เจ้าของรางวัลออสการ์

โดยวันนี้ 5 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไป สอบถาม พ.ต.ท.สุวิศ พิชอ่อน สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองกำแพงเพชร เจ้าของคดี ให้ข้อมูลว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดจากผู้ต้องหาได้รับว่าความให้ผู้เสียหายในคดีแพ่ง ใน จ.นครสวรรค์ แจ้งผู้เสียหายว่าชนะคดี โดยให้ผู้เสียหายดูคำพิพากษาศาล พร้อมเรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นค่าดำเนินการ ต่อมาผู้เสียหายตรวจสอบ พบว่า ไม่มีคำพิพากษา อีกทั้งไม่มีการไต่สวนคดีในสารบบของศาลจังหวัดกำแพงเพชรจริง จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ จ.นครสวรรค์

จากนั้นตำรวจ จ.นครสวรรค์ ได้ประสานมายัง สภ.เมืองกำแพงเพชร ก่อนที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชร ได้ตรวจสอบเลขที่คดี พบว่าไม่มีคดีดังกล่าวอยู่ในสารบบ และพอไปตรวจสอบรายชื่อทนาย ก็ไม่ปรากฏชื่อผู้ต้องหาอยู่ในรายชื่อของสภาทนายความอีกด้วย ทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาปลอมแปลงตั๋วทนาย ใช้ว่าความสร้างความเสียหายให้กับศาลเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมา มีการออกหมายจับ และเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ โดยขณะนี้ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชร เรียบร้อยแล้ว

จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ต้องหา ในพื้นที่ อำเภอเมืองกำแพงเพชร พบว่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว  มีการเขียนข้อความที่ผนังหน้าบ้านว่า ทนายความ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร คดีแพ่ง-อาญา พร้อมกับเบอร์ติดต่อ ส่วนภายในบ้านพบแม่ และลูกสาวของผู้ต้องหาอีก 2 คน

โดยแม่ อยู่ด้วยอาการเสียใจถึงกับร้องไห้ออกมา และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ เพียงแต่ให้ข้อมูลว่า ลูกชายได้เลิกอาชีพไก่หมุน แล้วมาทำอาชีพรับว่าความ หาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว จึงเป็นเสาหลักของบ้าน ส่วนเรื่องความผิด แม่บอกว่าก็ให้ว่ากันไปตามความผิด แต่ในหัวอกแม่นั้น ลูกชายเป็นที่รักและเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด

หลังจากลูกชายถูกควบคุมตัวไป ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย แม่ก็ไม่รู้จะไปติดต่อทางไหน ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วง อยากจะไปประกันตัวลูกออกมา แม่ ยอมรับว่า ชีวิตขณะนี้ลำบากมาก เพราะตนเองก็เป็นผู้พิการไม่สามารถเดินได้ และหลานสาวอีก 2 คนก็ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นกัน  ตอนนี้ก็ได้แต่มีเพื่อนบ้านนำอาหารและสิ่งของจำเป็นมาจุนเจือ ให้พอประทังชีวิต

ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ แถลงว่า จากการตรวจสอบ บุคคลดังกล่าวไม่ปรากฏชื่อในสารบบทนายความ มีการปลอมใบอนุญาตทนายความ โดยใช้เลขใบอนุญาตของทนายความคนหนึ่ง ซึ่งเข้าข่ายความผิดหลายส่วน  ทั้งละเมิดประมวลกฎหมายอาญา ละเมิดสภาทนายความ ละเมิดอำนาจศาล และฉ้อโกงประชาชน

และเนื่องจากมีผู้เสียหายหลายกรณี เป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ก็สุดแล้วแต่ศาลจะพิจารณาโทษ และต้องดูว่าทำมาแล้วกี่ครั้ง มีกี่สำนวน รวม ๆ กันแล้วอาจถูกจำคุกหลายสิบปี ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริง และต้องดูว่ามีทนายความคนใดให้ความช่วยเหลือหรือไม่

สำหรับคดีที่พิพากษาสิ้นสุดไปแล้ว จะทำอย่างไร ขึ้นกับดุลยพินิจของศาล ส่วนคดีที่ยังคาอยู่ในข้้นพิจารณา คงต้องเพิกถอนกระบวนการพิจารณาที่ผ่านมา และแต่งตั้งทนายใหม่

ขณะที่ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ รองโฆษกสภาทนายความ เผยว่า ขณะนี้ สภาทนายความ ได้แจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าไม่เพิกเฉยแน่นอนเพราะเป็นเรื่องที่กระทบความมั่นคงของประเทศ และสั่งการให้ตั้งโต๊ะรับช่วยเหลือผู้เสียหายจากกรณีนี้ และยินดีแต่งตั้งทนายให้สำหรับผู้เสียหายที่ต้องการ

 ด้านนายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการและกรรมการประชาสัมพันธ์ สภาทนายความ บอกว่า ตามหลักแล้วทนายทุกคนต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งเวลาจะขึ้นว่าความ ศาลจะให้แนบสำเนาใบอนุญาต พร้อมใบแต่งตั้งทนายความมาเป็นหลักฐานด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลก็จะตรวจสอบตามเอกสารที่แนบไป ไม่ได้ตรวจสอบมายังสภาทนายความ เนื่องจากปัจจุบัน ระหว่างสภาทนายความและสำนักงานยุติธรรมยังไม่มีข้อตกลงในการแชร์ข้อมูลกัน ซึ่งตรงจุดนี้ที่ทำให้เกิดปัญหา และกำลังเร่งดำเนินการแก้ไข

 

คอนเทนต์แนะนำ
วันหยุดเอเปค 2022 วันที่ 16-18 พ.ย. 65 วันหยุดราชการกรณีพิเศษ ต้อนรับประชุม APEC 2022
ขอความร่วมมือสถานีวิทยุกระจายเสียงทั่วประเทศ "แจ้งข่าวเตือนภัยพิบัติ"
เจาะสิทธิ "ช้อปดีมีคืน" ซื้ออะไรบ้าง? ได้ลดหย่อนภาษีเงินได้ปี 65

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ