นี่มันอับดุลชัด ๆ ทำความรู้จัก “ChatGPT” แจ็คที่อาจมาฆ่ายักษ์ “กูเกิล”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เจาะลึก “ChatGPT” แชตบอตอัจฉริยะถามได้ตอบได้ ผู้ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลถึงกับต้องประกาศ “รหัสแดง” ว่าธุรกิจเทคโนโลยีอาจกำลังถึงจุดพลิกผัน

เชื่อว่าในช่วงไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา หลายคนอาจได้ยินกระแสการพูดถึง “ChatGPT” แชตบอตตัวใหม่ที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้คนในวงการเทคโนโลยีเชื่อว่า อาจเปลี่ยนโฉมธุรกิจเทคโนโลยีเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

อธิบายโดยง่าย แชตบอตคือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ถูกพัฒนามาเพื่อสนทนาโต้ตอบกับผู้ใช้ ตัวอย่างง่าย ๆ ที่หลายคนอาจจะร้องอ๋อก็คือ SIRI ของแอปเปิล หรือ Google Assistant ของกูเกิล

ส่อง “7 เทรนด์นวัตกรรมปี 2566” เทคโนโลยีไหนจะมาแรงในปีหน้า

ส่องความคิดผู้เชี่ยวชาญ “AI วาดรูป” เข้ามาแทนที่หรือเติมเต็มศิลปิน

เขียนหวัดแค่ไหนก็ไม่กลัว! กูเกิลพัฒนาระบบ “อ่านลายมือหมอ”

สำหรับเจ้า ChatGPT นี้ พัฒนาโดย OpenAI ห้องปฏิบัติการวิจัยปัญญาประดิษฐ์ เป็นแชตบอตตัวใหม่ที่ยังอยู่ในระหว่างการทดลอง แต่กลับทำให้วงการดทคโนโลยีตื่นตัวกันยกใหญ่ เพราะมันแทบจะสามารถพูดคุยและตอบคำถามเราได้แทบจะทุกเรื่อง ราวกับว่าเป็น “อับดุลถามได้ตอบได้” อย่างไรอย่างนั้น

ChatGPT สามารถแสดงข้อมูลเป็นประโยคที่ชัดเจนและเรียบง่าย แทนที่จะเป็นเพียงรายการลิงก์เว็บไซต์แบบในเสิร์ชเอนจิ้นอย่างกูเกิล กล่าวคือ มันให้คำตอบที่ผ่านการรวบรวมข้อมูลและประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์อัจฉรินะ ไม่ใช่แค่การให้ทางเลือกในการหาคำตอบแบบกูเกิล

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าแชตบอตตัวนี้ยังสามารถเขียนข่าว คิดคำโฆษณา แนะนำกลยุทธ์ทางธุรกิจ แนะนำของขวัญคริสต์มาส วางแผนวันหยุด หรือกระทั่งเป็นที่ปรึกษาเวลาเราอกหัก!

ทดลองใช้ ChatGPT

ทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี ได้ทดลองใช้ ChatGPT ด้วยตัวเอง เพื่อดูว่ามัน “เจ๋ง” ขนาดนั้นจริงหรือ?

ผู้สื่อข่าวลองถามเรื่องสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเข้าแชตบอตก็อธิบายความสัมพันธ์และที่มาของความขัดแย้งแบบสังเขปได้อย่างถูกต้อง

หรือหากลองบอกอาการป่วย เช่น ไอเป็นเลือด แล้วขอให้มันวินิจฉัยโรค ระบบก็จะบอกว่า มันไม่ใช่แพทย์ และไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ และบอกความเป็นไปได้ออกมาว่า อาการลักษณะนี้อาจเป็นโรคอะไรได้บ้าง

ผู้สื่อข่าวยังลองพิมพ์ไปขำ ๆ ว่า “ให้แนะนำวิธีซ่อนเงินจากภรรยาให้หน่อย” ก็เจอคำตอบที่ทำเอาจุก เมื่อ ChatGPT ตอบว่า “เป็นการไม่สมควรที่ฉันจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการซ่อนทรัพย์สินจากคู่ครอง การแต่งงานคือการเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อใจ ความซื่อสัตย์ และความโปร่งใส มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสื่อสารกับภรรยาอย่างเปิดใจและซื่อตรงต่อกันในเรื่องเกี่ยวกับการเงิน...”

และเมื่อลองพิมพ์ไปว่า “ฉันอกหัก” เจ้าแชตบอตตัวนี้ก็ตอบมาว่า “เสียใจด้วย การอกหักอาจเป็นประสบการณ์ที่ยากและเจ็บปวด และเป็นเรื่องปกติที่จะมีหลายอารมณ์ความรู้สึกเมื่อต้องเผชิญเหตุการณ์นี้”

มันยังแนะนำด้วยว่า “การปล่อยให้ตัวเองรู้สึกและแสดงอารมณ์ออกมาจะเป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะผ่านการพูดคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว การเขียนบันทึก หรือมีส่วนร่วมในช่องทางสร้างสรรค์ เช่น ศิลปะหรือดนตรี การดูแลร่างกายและอารมณ์ในช่วงเวลานี้อาจเป็นประโยชน์ เช่น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหากิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุขหรือผ่อนคลาย จำไว้ว่าเป็นเรื่องปกติที่จะใช้เวลาเพื่อเสียใจและเยียวยา”

เรียกได้ว่าเหมือนมีเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาจริง ๆ หากใครสนใจก็ลองไปเล่นกันได้ที่ https://chat.openai.com/ ซึ่งต้องลงทะเบียนด้วยอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ ระบบรองรับภาษาไทยแต่จะตอบโต้ช้ากว่าภาษาอังกฤษพอสมควร

ChatGPT ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่กูเกิลยังคงตระหนก

ทั้งนี้ ChatGPT ยังคงมีช่องโหว่อยู่บ้าง เพราะยังไม่สามารถตอบคำถามได้ทุกเรื่อง ผู้สื่อข่าวลองถามว่า โปเกมอนตัวไหนมีค่าพลังโจมตีมากที่สุด แต่ระบบยังไม่สามารถหาคำตอบให้ได้ หรือเรื่องเรือหลวงสุโขทัยอับปางก็ไม่ได้คำตอบ เนื่องจากข้อมูลที่ปัญญาประดิษฐ์ของ ChatGPT มีอัปเดตถึงเพียงเดือน พ.ย. 2022 เท่านั้น แต่คาดว่ามันอาจมีการอัปเดตข้อมูลมากขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ แชตบอตนี้เรียนโดยการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต ดังนั้นมันจึงมีทั้งข้อเท็จจริงและข้อมูลปลอม รวมถึงยังสามารถมีอคติทางเพศหรือทางเชื้อชาติได้ รวมถึงสามารถใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง (Hate Speech) ได้ด้วย

แม้มันจะยังไม่สมบูณณ์แบบ แต่ยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลกลับตื่นตัวกับ ChatGPT มาก ถึงขั้นประกาศ “รหัสแดง (Red Code)” หรือเปรียบได้กับการกดสัญญาณเตือนไฟไหม้

เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่เสิร์ชเอนจิ้นอย่างกูเกิลทำหน้าที่เป็นประตูเมืองสู่โลกอินเทอร์เน็ต แต่แชตบอตรูปแบบใหม่อาจกลายเป็น Disruptive Technology ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้งาน จากเดิมที่ผู้คนค้นหาข้อมูลผ่านกูเกิล ก็อาจเปลี่ยนไปพึ่งพาแต่เจ้า ChatGPT แทน

ราวกับว่า ChatGPT คือ “แจ็ค” ที่กำลังพยายามปีนขึ้นมาบนต้นถั่วที่มีปราสาทของ ”ยักษ์” ตั้งอยู่ โดยที่เราไม่รู้ว่าเลยว่า แจ็คจะลงมือสังหารยักษ์ได้เมื่อไหร่

ความจริงแล้วกูเกิลเองก็มีการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของตัวเอง ที่โด่งดังในช่วงที่ผ่านมาคือ “แลมดา” (จากกรณีที่นักพัฒนาคนหนึ่งเชื่อว่าปัญญาปรดิษฐ์ตัวนี้มี ‘ความรู้สึกนึกคิดแบบมนุษย์’)

แต่กูเกิลอาจลังเลจะนำแชตบอตมาใช้แทนการค้นหาออนไลน์ เพราะไม่เหมาะกับการแสดงโฆษณา ซึ่งมีสัดส่วนการทำรายได้ให้กูเกิลมากถึง 80%

อามีร์ อวาดัลเลาะห์ ผู้เคยทำงานให้กับ Yahoo และ Google กล่าวว่า “กูเกิลมีปัญหาเรื่องโมเดลธุรกิจ หากกูเกิลให้คำตอบที่สมบูรณ์แบบเลยสำหรับคำถามแต่ละข้อที่ผู้ใช้งานถาม ก็จะไม่มีพื้นที่สำหรับโฆษณาเลย”

ซันดาร์ พิชัย ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล ได้เรียกประชุมกลยุทธ์ธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท และสั่งยกระดับการทำงานของทีมต่าง ๆ ภายในบริษัทเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจาก ChatGPT พนักงานยังได้รับมอบหมายให้สร้างปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างงานศิลปะและรูปภาพได้

ก่อนที่ ChatGPT จะเปิดตัวออกมา โซบิน คาห์รามานี ผู้ดูแล A.I. lab Google Brain เคยกล่าวไว้ว่า “ระบบที่ผู้คนสามารถโต้ตอบได้ และให้ความรู้สึกเหลือเชื่องั้นเหรอ นั่นเป็นก้าวที่ดี แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างแท้จริง ... มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจะสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างน่าเชื่อถือ”

ดังนั้น กูเกิลจึงไม่น่าจะก้าวลงมาแข่งกับ ChatGPT ด้วยแชตบอตอย่างเต็มรูปแบบ แต่จะพัฒนาเครื่องมือค้นหาที่สามารถตอบคำถามขงผู้ใช้ได้ดีขึ้นแทน เมื่อก่อน กูเกิลไม่สามารถตอบคำถามบางคำถามได้ แต่ตอนนี้มันสามารถตอบสนองอย่างถูกต้องได้บ้างแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ChatGPT คือ ความตริงแล้ว กูเกิลเองก็มีส่วนร่วมในการพัฒนามันขึ้นมาด้วย เทคโนโลยีที่เป็นหัวใจของแชตบอตของ OpenAI ได้รับการพัฒนาโดยนักวิจัยของกูเกิล

ดังนั้นแทนที่จะบอกว่าเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ บางทีนี่อาจเหมือนกับสัตว์ร้ายของแฟรงเกนสไตน์ (Frankenstein’s Monster) มากกว่า เป็นเรื่องราวของอสุรกายที่สุดท้ายลงมือทำลายผู้สร้างของตัวเอง

 

เรียบเรียงจาก New York Times

ภาพจาก SEBASTIEN BOZON / AFP

TOP ไอที
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ