ก่อนหน้านี้สื่อทั่วโลกพากันรายงานถึงความน่ากลัวของ “ChatGPT” แชตบอตอัจฉริยะที่ถามได้ตอบได้ยิ่งกว่าอับดุล เป็นที่ปรึกษาได้เกือบทุกเรื่อง รวมถึงทำการบ้านและเขียนงานวิจัยให้ได้ด้วย!
จากกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้หลายประเทศเริ่มทยอยแบนการใช้ ChatGPT ในการเรียน รวมถึงในการทำวิจัย ขณะที่ทาง OpenAI ห้องปฏิบัติการวิจัยปัญญาประดิษฐ์ ผู้พัฒนา ChatGPT ก็เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และพยายามแก้ไขด้วยการพัฒนา “เครื่องมือตรวจจับเนื้อหา” ขึ้นมา
คุกคามการศึกษา? “ChatGPT” ทำข้อสอบแพทย์-กฎหมายผ่าน!
ทุ่มพันล้านดอลลาร์! ไมโครซอฟต์จับมือ OpenAI ผู้พัฒนา “ChatGPT”
นี่มันอับดุลชัด ๆ ทำความรู้จัก “ChatGPT” แจ็คที่อาจมาฆ่ายักษ์ “กูเกิล”
เครื่องมือดังกล่าวนี้ จะสามารถตรวจสอบในเบื้องต้นว่า ข้อความนั้น ๆ ถูกเขียนขึ้นมาโดย ChatGPT หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) อื่น ๆ หรือไม่
OpenAI ระบุว่า เครื่องมือตรวจจับนี้ ได้รับการฝึกอบรมให้แยกความแตกต่างระหว่างข้อความที่เขียนโดยมนุษย์และที่เขียนโดย AI ที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ ChatGPT
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือนี้ยังไม่สามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำเต็มร้อย โดยจากการทดลองกับข้อความภาษาอังกฤษ เครื่องมือนี้สามารถระบุข้อความที่เขียนโดย AI ได้อย่างถูกต้องที่ความแม่นยำประมาณ 26%
ในขณะเดียวกัน เครื่องมือนี้ก็มีโอกาสประมาณ 9% ที่จะตรวจจับข้อความที่เขียนโดยมนุษย์ผิดพลาดว่าเป็นข้อความที่เขียนโดย AI
ทั้งนี้ หากเป็นข้อความภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ความแม่นยำในการตรวจจับจะยิ่งลดน้อยลงอย่างมาก
OpenAI บอกว่า โดยทั่วไป ความน่าเชื่อถือของเครื่องมือตรวจจับจะเพิ่มขึ้นเมื่อความยาวของข้อความที่ป้อนเพิ่มขึ้น
นักวิจัยของ Open AI กล่าวว่า “แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจจับข้อความที่เขียนโดย AI ทั้งหมดได้อย่างน่าเชื่อถือ แต่เครื่องมือก็สามารถจับสัญญาณได้ว่า ข้อความนั้นเขียนโดย AI เครื่องมือนี้อาจมีประโยชน์ในกรณีที่ AI ถูกใช้เพื่อความไม่ซื่อสัตย์ทางวิชาการ”
นับตั้งแต่มีการเปิดตัว ChatGPT เมื่อปลายปีที่แล้ว และเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถใช้งานได้ ก็ทำให้เกิดกระแสวิตกในหมู่สถาบันการศึกษาทั่วโลกว่า นี่อาจนำไปสู่การโกงข้อสอบหรือการประเมินผลต่าง ๆ
อาจารย์ในสหราชอาณาจักรได้ทบทวนวิธีการประเมินหลักสูตรการสอน ในขณะที่มหาวิทยาลัยบางแห่งเริ่มสั่งห้ามการใช้เทคโนโลยีทั้งหมด และบางที่ถึงขั้นกลับไปใช้ข้อสอบแบบปากกาและกระดาษ เพื่อปิดช่องทางที่นักศึกษาจะใช้ AI ในการทำข้อสอบ
อาจารย์คนหนึ่งของมหาวิทยาลัยดีคินในออสเตรเลียกล่าวว่า ประมาณ 1 ใน 5 ของการบ้านฤดูร้อนที่เธอตรวจ มีการใช้ความช่วยเหลือจาก AI
ในขณะที่สถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ตอบสนองต่อ AI ด้วยการแบน แต่บางที่ก็ยอมรับกระแสการใช้ AI ในการศึกษาแล้ว โดยเมื่อเดือนที่แล้ว มหาวิทยาลัยหลัก 3 แห่งในรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้อัปเดตนโยบายให้นักศึกษาสามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI เช่น ChatGPT ในการศึกษาได้
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP / Getty Image