อีลอน มัสก์-ผู้นำวงการเทคโนโลยี จี้ระงับพัฒนาเอไอ หวั่นคุกคามมนุษยชาติ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีร่วมลงนามในจดหมายเรียกร้องระงับการพัฒนาเอไอประสิทธิภาพสูงชั่วคราว อ้างเป็นความเสี่ยงร้ายแรงต่อมนุษยชาติ

ในช่วงที่ผ่านมา โลกต่างตื่นเต้นไปกับแชตบอตอัจฉริยะ ChatGPT ที่เข้ามาพลิกโฉมหลากหลายวงการไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษา นักโฆษณา นักข่าว นักวิจัย ฯลฯ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์อื่น ๆ เช่น มิดเจอร์นีย์ (Midjourney)

อย่างไรก็ตาม นอกจากความตื่นเต้น การเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ก็ยังทำให้เกิดความกังวลและหวาดกลัวว่า เจ้าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ในอนาคตจะถูกผลักดันจนก้าวไปไกลเกินกว่าที่มนุษย์จะควบคุมได้หรือไม่

“โกลด์แมน แซคส์” ประเมิน เอไอจะกระทบงานประจำทั่วโลก 300 ล้านตำแหน่ง

10 คำตอบ หลังถาม “ChatGPT” ว่าตัวมันเองจะปฏิวัติอะไรบนโลกได้บ้าง?

เปิดตัว “GPT-4” แชตบอต ChatGPT จะสร้างสรรค์ขึ้น-ผิดพลาดน้อยลง

ล่าสุด ผู้คนในแวดวงเทคโนโลยีหลายคนและองค์กรชื่อดังหลายแห่งออกมาเรียกร้องให้ OpenAI ห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ผู้พัฒนา ChatGPT หยุดการฝึกอบรมระบบเอไอเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน โดยอ้างว่า “เป็นความเสี่ยงอย่างร้ายแรงต่อสังคมและมนุษยชาติ”

ผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อีลอน มัสก์ เจ้าของคนใหม่ของทวิตเตอร์ สตีฟ วอซนิแอค ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล ยังมีผู้นำในวงการเทคโนโลยี อาจารย์ และนักวิจัยหลายสิบคน ได้ลงนามในจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งจัดพิมพ์โดย Future of Life Institute ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ได้รับการสนับสนุนจากมัสก์

จดหมายฉบับนี้มีขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่ OpenAI ประกาศเปิดตัว GPT-4 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาเวอร์ชันที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ทำให้แชตบอต ChatGPT ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จดหมายระบุว่า “ระบบเอไอที่มีประสิทธิภาพมากกว่า GPT-4 ควรถูกระงับชั่วคราว” นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญอิสระควรใช้ช่วงเวลาที่มีการหยุดพัฒนาเอไอชั่วคราว เพื่อร่วมกันพัฒนาและนำชุดมาตรการมาใช้สำหรับเครื่องมือเอไอที่ปลอดภัย

“เอไอขั้นสูงสามารถเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตบนโลก และควรได้รับการวางแผนและจัดการด้วยการดูแลและทรัพยากรที่สมน้ำสมเนื้อ” จดหมายระบุ

บรรดาผู้เชี่ยวชาญเสริมว่า “โชคไม่ดีที่การวางแผนและการจัดการในระดับนี้ไม่ได้เกิดขึ้น ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่าห้องปฏิบัติการเอไอตกเข้าสู่วังวนของการแข่งขันที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพื่อพัฒนาและใช้งานอย่างทรงพลังกว่าเดิม ซึ่งไม่มีใคร แม้แต่ผู้สร้าง ที่สามารถเข้าใจ ทำนาย หรือควบคุมได้อย่างน่าเชื่อถือ”

กระแสความสนใจเกี่ยวกับ ChatGPT ที่ร้อนแรงมาครั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ พากันติดอาวุธให้กับตัวเองด้วยการพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และปรับใช้ในผลิตภัณฑ์ของตน นอกจาก OpenAI ที่จับมือกับไมโครซอฟต์แล้ว ยังมีกูเกิล (Google) เป็นคู่แข่งรายใหญ่ของเทรนด์นี้ รวมถึงยังมี IBM, Amazon, Baidu และ Tencent ที่กำลังพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน ยังไม่นับสตาร์ทอัปอีกจำนวนมาก

ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับศักยภาพของเครื่องมือเอไอสำหรับการตอบสนองที่มีอคติ โอกาสในการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด และผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค เครื่องมือเหล่านี้ยังจุดประกายคำถามว่า เอไอจะมาแย่งงาน ช่วยให้นักเรียนโกงการสอบ และเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเรากับเทคโนโลยีได้อย่างไร

 

เรียบเรียงจาก CNN

ภาพจาก AFP

คอนเทนต์แนะนำ
ไมโครซอฟต์เพิ่มฟีเจอร์เอไอผู้ช่วยลงในโปรแกรมพื้นฐาน Word-Excel
"MAVE" เกิร์ลกรุ๊ป AI วงแรกของเกาหลีใต้ บุกเมตาเวิร์ส

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ไอที
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ