เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา คลาร์กสัน (Clarkson) บริษัทกฎหมายในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้ OpenAI ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ผู้พัฒนาแชตบอต ChatGPT หยุดการใช้งานเจ้าแชตบอตตัวดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เพราะต้องสงสัยว่า มีการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
คลาร์กสันระบุว่า การให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับ ChatGPT นั้นมีความเสี่ยงที่จะถูกเข้าถึงและขโมยได้ ซึ่งทางบริษัท OpenAI ทราบเรื่องนี้ดีอยู่แล้วแต่กลับไม่คำนึงถึงความเสี่ยงในการให้บริการ
โดย ChatGPT จะเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตในสื่อโซเชียลต่าง ๆ เช่น ทวิตเตอร์ หรือ Reddit เพื่อจัดเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลในการทำงาน แต่ปัญหาคือ ทางบริษัท OpenAI ได้โปรแกรมให้ ChatGPT เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่มีการแจ้งเตือนหรือขออนุญาตใด ๆ ให้ผู้ใช้งานได้ทราบ
“กูเกิล” อัปเดตเอไอ “Bard” ตอนนี้สื่อสารได้ถึง 40 ภาษาแล้ว
ครั้งแรก! หุ่นยนต์เอไอร่วมแถลงข่าว ยันไม่คิดก่อกบฏ-แย่งงานมนุษย์
คลาร์กสันยังกล่าวซ้ำอีกว่า บริษัท OpenAI และหุ้นส่วนในการพัฒนาเอไออย่าง ไมโครซอฟต์ (Microsoft) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวผลกำไรจากเอไอ แม้ว่าการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้คนจะไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขาก็ตาม
โดยคดีที่เกิดขึ้นนี้เรียกร้องให้ศาลของสหรัฐฯ บังคับให้บริษัท OpenAI หยุดให้บริการ ChatGPT ชั่วคราวจนกว่าจะสามารถใช้มาตรการป้องกันต่าง ๆ ได้ รวมถึงการจัดตั้ง “สภาเอไอ” อิสระที่จะกำหนดว่า ผลิตภัณฑ์จาก OpenAI จะถูกนำมาใช้งานอย่างไรในอนาคต
และนอกจากนี้ คลาร์กสันยังเรียกร้องให้ OpenAI ชดใช้ค่าเสียหายสำหรับการนำข้อมูลของผู้ใช้งานมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่ทาง OpenAI ยังไม่ตอบรับในทันทีเพราะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทได้เพิ่มการควบคุมความเป็นส่วนตัวขึ้นมาใหม่ ซึ่งรวมถึงการขอให้ทางบริษัท OpenAI ทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณออกจากแชตบอตอยู่แล้ว ทั้งนี้แล้วแต่อำนาจศาลเป็นคนตัดสิน
เรียบเรียงจาก PCMag