Apple แบรนด์สมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ไอทีชั้นนำ ยังไม่มีการเปิดตัวโมเดลหรือแพลตฟอร์มใช้งานแชตบอตเหมือนเหล่าค่ายดังอย่าง OpenAI ที่มี Chat-GPT หรือ Google ที่มี Gemini เป็นตัวชูโรง
อย่างไรก็ตาม CNET ได้ออกมาเปิดเผยว่า บนสมาร์ตโฟนเรือธงของ Apple อย่าง iPhone ก็ได้ใส่ฟีเจอร์ที่อาศัย AI ในการทำงานเอาไว้แบบเนียน ๆ โดยที่ผู้ใช้งานอาจคาดไม่ถึงกัน โดยหยิบยกมา 5 อย่างให้ได้ดูกัน
Personal Voice
ถือเป็นฟีเจอร์ใหม่บนระบบปฏิบัติการ iOS 17 โดย Personal Voice เป็นระบบสร้างเสียงสังเคราะห์ของตนเองและสั่งการให้พูดได้ผ่านการพิมพ์ ใช้งานโดยอัดเสียงตาม 150 วลีที่ระบบกำหนดไว้ หลังจากนั้น AI จะประมวลผลเสียงของเรา และเราสามารถพิมพ์สิ่งที่ต้องการออกมาเป็นเสียงของตัวเองได้ ซึ่งปัจจุบัน ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้บน FaceTime และใช้ได้เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น
Live Text
ฟีเจอร์ต่อมาคือ Live Text หรือระบบที่สามารถจดจำตัวหนังสือ ลายมือบนรูปภาพ จากนั้นสามารถแปลงออกมาเป็นข้อความได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ ช่วยให้คัดลอก และวางข้อความจากรูปภาพได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมาพิมพ์อีกครั้ง
นอกจากนี้ Apple ยังพัฒนาระบบให้สามารถเข้าใจคำศัพท์ได้มากขึ้น รวมถึงคำหยาบ คำแสลงต่าง ๆ จากการใช้งานโมเดล Transformers ใน iOS 17
Auto Correct
หรือการแก้ไขอัตโนมัติ โดย Apple อาศัยโมเดล Transformers ในระบบปฏิบัติการ iOS 17 ที่ช่วยให้ระบบการคาดเดาคำศัพท์และบริบท มีความแม่นยำมากขึ้น ทำให้ iPhone สามารถเข้าใจบริบทได้หลากหลาย และไม่เปลี่ยนคำด่าหรือคำหยาบคายต่าง ๆ เป็นคำอื่น
Photography Features
เป็นการใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนาประสิทธิภาพของกล้องในด้านต่าง ๆ เช่น โหมดภาพถ่ายบุคคล ที่ใช้ AI เพื่อระบุตำแหน่งวัตถุ และสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ และโหมดภาพยนตร์ ที่ใช้ AI จำลองรูรับแสงที่ต้องการ และปรับโฟกัสแบบไดนามิก เพื่อให้วัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวมีความคมชัด เป็นต้น
นอกจากนี้ ในแอปพลิเคชัน Photos ยังสามารถจัดระเบียบรูปภาพ โดยการแยกใบหน้าด้วย AI และสามารถจำแนกสัตว์ได้ สามารถระบุได้ว่าบุคคลในภาพคือใคร และระบุได้ว่าสัตว์ชนิดนั้นคือสัตว์ประเภทใด ซึ่งจะช่วยให้การจัดระเบียบรูปทำได้ง่ายขึ้น
Siri
Siri หรือ โมเดล NLP AI assistance คือผู้ช่วยที่สั่งการด้วยเสียงของ Apple สามารถเข้าใจภาษา และตอบสนองในลักษณะเหมือนมนุษย์ นอกเหนือการใช้งานอื่น ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถหลากหลาย และเป็นจุดเด่นที่เป็นจุดแข็งของ Apple
โดย Apple มีแผนนำ LLM หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ มาเพิ่มความสามารถให้กับ Siri ซึ่งจะช่วยให้ตอบสนองต่องานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น ผ่านคำสั่งเสียงง่าย ๆ เช่น การเปลี่ยนรูปภาพหลาย ๆ รูป เป็น GIF และส่งไปให้ผู้ติดต่อส่วนตัว เป็นต้น หาก Apple ทำสำเร็จ จะถือเป็นก้าวกระโดดของทางแบรนด์เลยทีเดียว
ที่มา : CNET
เช็กชื่อ! กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดนตัดสิทธิฯ 10 ปี หลังยุบพรรค
ไฟไหม้ตลาดสี่มุมเมือง “เด็ก 4 ขวบพร้อมน้า” สำลักควันเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1
เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก