ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีข่าวลือว่า Apple ต้องการผลิต iPhone แบบไร้พอร์ตชาร์จ เพื่อให้รองรับกับการชาร์จไร้สายแบบสมบูรณ์ โดยมาร์ก เกอร์แมน เหยี่ยวข่าวดังจากบลูมเบิร์ก เผยว่า Apple เตรียมนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้กับ “iPhone 17 Air” ว่าที่มือถือรุ่นบางสุดของ Apple ที่คาดว่าจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้สามารถชาร์จผ่าน MagSafe ได้เท่านั้น ทว่าเกอร์แมนเผยว่า Apple กลับไม่ได้ทำเช่นนั้นแต่อย่างใด
แล้วทำไม Apple ถึงตัดสินใจเช่นนั้น?
จูลี โคลเวอร์ นักเขียนจากสื่อรายงานความเคลื่อนไหว Apple อย่าง MacRumors เผยว่า ที่ Apple ไม่ตัดสินใจเช่นนั้น อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากความกังวลว่าการยกเลิกพอร์ต USB-C จะทำให้ Apple ต้องประสบปัญหาจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหภาพยุโรป เหมือนกรณีการเปลี่ยนผ่านจาก iPhone 14 ที่ใช้พอร์ต Lightning มาเป็น iPhone 15 และรุ่นใหม่กว่า ที่ใช้พอร์ต USB-C ตามกฎของหน่วยงานดังกล่าว ซึ่งจะทำให้สามารถทำตลาดในยุโรปได้
ซึ่งในทางเทคนิค แม้กฎดังกล่าวจะสามารถใช้ได้เฉพาะในสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ Apple อาจมองว่า การเปลี่ยน iPhone รุ่นใหม่มาใช้พอร์ต USB-C ทั้งหมด แทนที่จะพัฒนา iPhone ที่ใช้ USB-C ในยุโรป และเดินหน้ารุ่นที่ใช้ Lightning ต่อไปในภูมิภาคอื่น ๆ นั้นได้ไม่คุ้มเสียสักเท่าไร
โดยในปัจจุบัน iPhone 16 รองรับการชาร์จ MagSafe ได้สูงสุด 25W และสามารถชาร์จแบบ Fast Charge ได้ด้วย MagSafe และอะแดปเตอร์ไฟ 30W ซึ่งช่วยให้ iPhone ชาร์จได้ถึง 50% ใน 30 นาที และการชาร์จที่เร็วขึ้นผ่าน MagSafe ทำให้การชาร์จแบบไร้สาย ชาร์จไวเทียบเท่ากับการชาร์จผ่าน USB-C
แม้ว่า Apple จะไม่ได้ทำให้แนวคิด iPhone ไร้พอร์ตเป็นจริง แต่ก็ไม่ใช่แนวคิดที่ Apple จะละทิ้ง หาก iPhone รุ่นใหม่สามารถขายดี Apple ก็อาจกลับมาพัฒนาต่อก็เป็นได้
ที่มา: MacRumors