ครม.ใหม่! รุ่งหรือร่วง?
เป็นเรื่องเป็นข่าว

“เป็นเรื่อง เป็นข่าว” – ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง (อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต) กล่าวว่า ภาพรวมการปรับคณะรัฐมนตรีให้พอใช้ เพราะประชาชนไม่รู้สึกว่าตื่นเต้น น่าเสียดายรายชื่อที่ถูกโยนหินถามทางมาหลายสัปดาห์ ไม่ได้สร้างภาพขยายมองว่าถ้าปรับแล้วคนใหม่เข้ามาโดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ จะเก่งกว่าแล้วจะถดแทนกับคนเก่าไปจากเดิมได้ไหม เป็นการตั้งคำถามจากความรู้สึกตัวเอง จะมีเพียง “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เพียงเท่านั้น “รายชื่อที่น่าจะเหมาะสมที่สุด คือ รมว.อุดมศึกษาฯ ที่ได้นักการศึกษา มานั่งดูแลเรื่องการศึกษา โดยถือว่า อ.เอนก เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญรอบรู้ และเข้าใจด้านการศึกษา ซึ่งเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว มากกว่า รมต.คนเก่าที่ดูแลกระทรวงนี้ด้วยซ้ำ
.
ขณะที่ในตำแหน่งของรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจนั้น มองว่า ยังไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนทางสังคมมากนัก โดยเฉพาะ “ปรีดี ดาวฉาย” ที่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนจากนายธนาคารมาก่อน แน่นอนว่าจะเกิดข้อสงสัยถึงการทำงานระหว่างนักการธนาคารและข้าราชการกระทรวงการคลัง ว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ ซึ่งถือเป็นบดทดสอบที่สำคัญ
.
ด้าน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ซึ่งมีชื่อเป็น รองนายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน น่าจะเป็นแอคทีฟที่เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาพลังงาน เพราะมีความเชี่ยวชาญ และความรู้เกี่ยวกับพลังงานดีกว่า “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” แต่ในทางตรงกันข้าม ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักทางสังคมมากนัก
.
กรณีของ “อนุชา นาคาศัย” ซึ่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “วันวิชิต” มองว่า เป็นการแก้ไขปัญหาความเป็นเอกภาพทางการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และด้วยชื่อชั้นความเป็น เลขาฯ พปชร. พรรคแกนนำรัฐบาล จึงทำให้ “เก้าอี้” ที่ได้รับนั่นเล็กเกินไป หากเทียบกับ เลขาฯ พรรคร่วมอย่าง “ประชาธิปัตย์” และ “ภูมิใจไทย” ซึ่งได้กระทรวงเกรดเอ ขณะที่ "“อนุชา” นั่นได้นั่งในกระทรวงที่เป็นเพียงแค่เกรดซี
.
ขณะเดียวกันตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ของ “สุชาติ ชมกลิ่น” ประธาน ส.ส.พลังประชารัฐ นั้น ได้รับการคาดหวังว่าชื่อชั้นที่อาจเข้าใจปัญหาแรงงานเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์ที่เคยมีด้านนี้ จะต้องใช้เวลาทำงาน เพื่อพิสูจน์ความคาดหวังของประชาชนให้ได้
.
ด้าน “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานนั้น ถือเป็นตำแหน่งใหม่ในรัฐบาลประยุทธ์ 2/2 ไม่ขอให้ความคิดเห็นใดๆ แต่กล่าวว่า “เป็นไปตามตำแหน่งที่คุณขอมา”
.
สุดท้าย คือ การมีชื่อเป็น รองนายกรัฐมนตรี ควบด้วยตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” มองว่า เป็นไปตามเรื่องของสัมพันธภาพ เป็นการรักษาโควตาในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไว้ต่อไป เผื่อในอนาคตจะเกิดแรงกดดันทางการเมืองเพิ่มเข้ามาอีก
.
นอกจากนี้ปฏิกิริยาของภาคประชาชนต่อการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ประชาชนไม่ได้มีความคาดหวังจากการปรับ ครม.ชุดนี้ และกลับกลายเป็นว่าประชาชนมีความผิดหวัง และเป็นการผิดหวังอย่างเงียบๆ.