คู่ที่สองของรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยังคงเป็นการพบกันระหว่างตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้และทวีปยุโรป เพื่อเฟ้นหาทีมที่จะเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไป ทัพ “แซมบ้า” บราซิล หนึ่งในตัวเต็งที่ยังเหลือรอดของศึกฟุตบอลโลก 2018 กับผลงานที่ทำได้ค่อนข้างดีในช่วงหลัง โดยเฉพาะนัดที่เอาชนะเม็กซิโกมา 2-0 แต่ในนัดนี้คาดว่ากอง
หลังมือดีอย่าง มาร์เซโล วีเอลา ที่พลาดลงสนามนัดก่อนก็น่าจะยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บเช่นเดิม ประกอบกับ ฟิลิเป้ หลุยส์ ก็ทำผลงานได้ดีจึงน่าจะยังได้อยู่ในตำแหน่งแบ็กซ้ายต่อไป อย่างไรก็ตาม โค้ชใหญ่ “ติเต้” จะต้องมีการปรับกลยุทธ์เล็กน้อย เพราะกองกลางตัวหลักอย่าง กาเซมิโร่ ดันติดโทษแบน คาดว่าจะให้ แฟร์นันดินโญ่ ลงมาปั้นเกมแทน ส่วนในแนวรุก การแข่งครั้งนี้ กาเบรียล เฆซุส มีความหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะทำแต้มแรกของตัวเองในมหกรรมฟุตบอลโลกนี้เสียที ต้องจับมือกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, วิลเลี่ยน และ เนย์มาร์ให้ดี เพื่อทำแต้มพาทัพแซมบ้าไปสู่รอบถัดไป
ผลงานนัดล่าสุดไม่ดีนักสำหรับทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ที่ผ่านญี่ปุ่นมาได้แบบหวุดหวิด แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังคงได้รับความเชื่อมั่นให้เฝ้าเสาประตูต่อไป นับว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครในทีมเกิดอาการบาดเจ็บเลย ในแง่ของความพร้อมทางร่างกายจึงนับว่าเหนือกว่าทัพบราซิลเล็กน้อย โดยในนัดนี้กุนซือ “โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ” น่าจะเลือกใช้มารูยาน เฟลไลนี่ ที่ยิงประตูใส่ญี่ปุ่นได้ในนัดก่อนลงเล่นตัวจริง พร้อมประสาน เอแดน อาซาร์ และ เดอ บรอยน์ คอยป้อนบอลสวย ๆ ส่งให้ โรเมลู ลูกากู ทำแต้มสวย ๆ แม้เบลเยียมจะดูเป็นทีมที่ไม่โด่งดังนักในด้านฟุตบอลช่วงหลายปีหลัง แต่ฟอร์มการเล่นในฟุตบอลโลกปีนี้ที่โดดเด่นและน่าประทับใจก็ทำให้บราซิลไม่สามารถประมาทเบลเยียมได้เลย
ทีมชาติบราซิลเคยพบกับทีมชาติเบลเยียมล่าสุดเมื่อปี 2002 ในครั้งนั้นบราซิลชนะไป 2-0 แต่ผลการแข่งในปีนี้อาจไม่ออกมาเป็นอย่างนั้น เมื่อทัพเบลเยียมก็ฟอร์มดีไม่น้อยและบราซิลปีนี้ยังดูไม่ท็อปฟอร์มและทำให้แฟนฟุตบอลว้าวได้อย่างทุกที ติดตามผลลัพธ์ว่าจะพลิกล็อกหรือไม่ได้ในคืนนี้เวลา 01.00 น.