ครึ่งแรกอังกฤษ นำ 1-0 โดยได้ประตูจาก จังหวะที่ บูคาโย่ ซาก้า เปิดจากฝั่งซ้ายไปติดแนวรับอันดอร์ร่า มาเข้าทาง เจสซี่ ลินการ์ด จับก่อนยิงเข้าประตูไป และประตูนี้ยังถือเป็นประตูแรกในรอบ 1,022 วันของ ลินการ์ด นับตั้งแต่เคยยิงประตูให้อังกฤษได้ในเกมพบ โครเอเชีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018
กลับมาครึ่งหลังยังเป็นเกมของอังกฤษ นาทีที่ 72 “สิงโตคำราม”มาได้จุดโทษ เมื่อ คริสเตียน การ์เซีย ไปฟาวล์ เมสัน เมาท์ ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ อังกฤษ นำ 2-0
อังกฤษ ประกาศ 25 แข้งคัดบอลโลก 2022 แบมฟอร์ด ติดธงครั้งแรก
"ลินการ์ด" ขอบคุณ "เวสต์แฮม" ช่วยคืนฟอร์มจนติดทีมชาติ
ก่อนหมดเวลา 5 นาที ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาได้ประตูปิดท้าย จากจังหวะที่ ลินการ์ด เปิดไปให้ บูคาโย่ ซาก้า โหม่งไม่เหลือ จบ 90 นาที อังกฤษ ถล่ม อันดอร์ร่า 4-0 เก็บชัยชนะ 5 นัดรวด มี 15 คะแนนเต็ม
เกมต่อไปอังกฤษจะบุกไปเยือนโปแลนด์ ในวันพุธที่ 8 กันยายนนี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อังกฤษ : แซม จอห์นสตัน - รีซ เจมส์, คอเนอร์ เคาดี้, ไทโรน มิงส์, คีแรน ทริปเปียร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จู๊ด เบลลิงแฮม - เจสซี่ ลินการ์ด, แพทริค แบมฟอร์ด, บูคาโย่ ซาก้า
อันดอร์รา : โจเซป โกเมส - เฆซุส รูบิโอ, คริสเตียน การ์เซีย, มาร์ค บาเลส, มักซ์ ญอเบร่า, มอยเสส นิโกลัส - ลูโดวิช เกลเมนเต้, มาร์ก เรเบส, มาร์ซิโอ วิเอร่า, จอร์ดี้ รูบิโอ - อาร่อน ซานเชซ
บราซิล-อาร์เจนตินา ยกเลิกแข่ง หลัง 4 แข้งฟ้าขาวถูกคุมตัวละเมิดกฎโควิด