"จิมมี่" พิฆเนศ นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งไทย ตัวตนกับความภูมิใจของการเป็น LGBTQ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




"จิมมี่" พิฆเนศ สุขหยิก นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ตัวตนกับความภูมิใจของการเป็น LGBTQ

กระแสดราม่า สหพันธ์กีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งเอเชีย สั่งห้ามไม่ให้ "จิมมี่" พิฆเนศ สุขหยิก นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ที่เปิดตัวเป็นเพศทางเลือก หรือ LGBTQ และโชว์หมุนตัวบนสังเวียนอย่างน่ารักในโลกโซเชียล แต่สหพันธ์คิกบ็อกซิ่งแห่งเอเชีย ไม่พอใจและสั่งห้าม "จิมมี่" ทำอีก โดยอ้างว่าไม่ให้เกียรติคู่แข่งถึงขั้นให้เซ็นสัญญาว่าจะไม่ทำอีกจนชาวโซเชียลไม่พอใจที่ไม่เคารพสิทธิของเพศทางเลือกในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  

คอนเทนต์แนะนำ
"จิมมี่" สุดช็อกหลังสหพันธ์เอเชียฯ ลงดาบหากโชว์สวยบนเวทีอีก
คิกบ็อกซิ่งไทย ไม่สนดราม่า เดินหน้าเตรียมทีมลุยศึกอินดอร์เกมส์ปลายปี
"Pride Month" คืออะไร ทำไมตรงกับเดือนมิถุนายนและสำคัญกับ "LGBTQIAN+"

 

สำหรับผลงานของ "จิมมี่" สามารถคว้าเหรียญทองแดงกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ในการแข่งขันซีเกมส์ 2023  ส่วนโปรแกรมต่อไปเตรียมลงทำศึกคิกบ็อกซิ่ง ในการแข่งขันกีฬาเวิลด์เกมส์ 2023  

เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้แฟนกีฬาเกิดความสนใจและอยากที่จะรู้จักตัวตนของ "จิมมี่" มากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยเดือนมิถุยายนนี้ ถูกยกให้เป็น "Pride Month" เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ มาทำความรู้จักตัวตน ทัศนคติ และ มุมมอง ของ จิมมี่" พิฆเนศ สุขหยิก นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย กับความภูมิใจของการเป็น LGBTQ

หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นที่ทราบว่าเป็น LGBTQ "จิมมี่" เปิดใจว่าทราบว่าตัวเองเปน LGBTQ ตั้งแต่จำความได้ ความทรงจำตอนเด็กช่วงความทรงจำสุดท้าย รู้สึกว่าชอบผู้ชาย ตั้งแต่ช่วงอนุบาลขึ้น ป.1 เพราะช่วงนั้นเคยแอบชอบผู้ชาย แอบชอบเพื่อนตัวเอง จึงเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่าเราไม่ชอบผู้หญิงหรอนี่ เพราะเรามีร่างกายเป็นผู้ชาย แต่มีความคิดว่าทำไมผู้ชายคนนี้น่าสนใจจังเลย เราไปนั่งเฝ้าเขาหน้าเสาธงทุกวัน รอมาที่โรงเรียนและไปเรียนด้วยกัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่รู้ตัวเองว่าเป็นเพศทางเลือกแน่นอน ส่วนทาง คุณพ่อคุณแม่ ท่านทราบว่าเราเป็น LGBTQ ตั้งแต่เด็กๆ เช่นกัน ซึ่งท่านก็ให้การยอมรับในตัวตนของเรา  

จากเส้นทางการเป็นนักกีฬา "จิมมี่" มีคติประจำตัวว่าการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ต้องแบกรับหน้าที่ของประเทศชาติอยู่แล้ว ยิ่งเป็น LGBTQ แบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดาที่ตัวเราจะต้องเข้าใจในส่วนของคนที่ไม่ได้ชอบในพฤติกรรมหรือการแสดงออกแบบนี้ ซึ่งคติของ"จิมมี่" นั้น ง่ายๆเลยคือ เข้าใจเขาคืออีกบุคคลหนึ่งที่ไม่ใช่เรา

ณ วันนี้เรามีความรัก เรามีคุณค่า ที่เรายอมรับในตัวเองแล้ว เราก็แค่ส่งมอบความรักและความเข้าใจของเราส่งให้เขากลับไป และมองเขาอย่างเข้าใจว่าคนเราไม่ได้เหมือนกัน Mindset แต่ละคนไม่ได้เหมือนกัน กรอบความคิดของคนเราไม่เหมือนกัน ถ้าใครไม่ชอบเรา เราก็แค่ส่งความรักให้กับเขา และหวังว่าเขาจะเห็นถึงความเป็นมนุษย์คนหนึ่งเราแค่นั้นเอง ให้เขาได้รู้ว่าเราก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง เราไม่ได้เป็นตัวประหลาดอะไรเลย เพราะเรารักตัวเองแล้ว เราเคารพในตัวเองแล้ว เราก็เคารพในทุกคนเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นที่ไม่ชอบ หรือคนที่รักเรา ความรักของ "จิมมี่" มันยิ่งใหญ่กว่าทุกอย่างเสมอค่ะ  

"จิมมี่" ยังได้ฝากถึง LGBTQ ทุกคนว่าอยากเป็นกำลังใจ LGBTQ ทุกคน รวมทั้งทุกคนทั่วไป ทุกคนมีคุณค่า แค่ค้นหาตัวเองให้เจอว่าเราถนัด เรารักในสิ่งไหน ความรักตรงนั้นมันจะนำพาสู่ความสำเร็จได้แน่นอน อย่างเช่น เรารักในการออกกำลังกาย ตื่นเช้ามาเราแฮปปี้กับการยกเวท วิ่ง 800 เมตร 16 เที่ยว ถึงจะเหนื่อยก็เป็นความสุข นี่คืองานของเรา ตื่นเช้ามาแล้วเราอยากจะออกไปทำมัน แค่มีความรัก ใส่ใจกับสิ่งที่เราทำ แค่นั้นเลยค่ะ ความรักตรงนั้นมันจะนำพาสู่ความสำเร็จ อย่างเช่น การ slow mo-turn  หนูรักในนางงาม หนูก็รักในการเป็นแบบนี้ เพราะว่าหนูชอบดูนางงาม ความรักส่งหนูมาให้เป็นไวรัล

ณ วันนี้ จิมมี่ เลยรู้สึกความรักมันค่อนข้างที่จะยิ่งใหญ่ แค่เราใส่ใจกันมัน และความสำเร็จตรงนั้นมันจะเข้ามาหาเราเอง เป็นกำลังใจให้กับทุกเพศทุกวัย และ LGBTQ ทุกคนค่ะ 

 

TOP ข่าวกีฬา
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ