เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของธุรกิจกลุ่มบริษัท อิเนออส (INEOS) ยังคงรอคอยการบรรลุข้อตกลงซื้อหุ้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ ด้วยมูลค่า 1.3 พันล้านปอนด์ ให้เรียบร้อยเพื่อเข้ามาบริหารงานที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้อย่างเต็มตัว
เดลี เมล รายงานว่า ครอบครัวเกลเซอร์ ใช้เงิน 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ( หรือประมาณ 11 ล้านบาท) เป็นค่าธรรมเนียมทางกฎหมายและที่ปรึกษาเพื่อประมูลขายหุ้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ให้กับ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ซึ่งจากข้อมูลนี้ทำให้เป็นจำนวนเงินมากกว่าที่พวกเขาจ่ายให้กับ บรูโน แฟร์นันด์ส กัปตันทีม
เนื่องจากกระบวนการขายที่ซับซ้อนซึ่งผ่านจุดหนึ่งปีในสัปดาห์นี้ ทำให้สโมสรต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่ากับ 1 ล้านปอนด์ต่อเดือน ( หรือประมาณ 44 ล้านบาท) บัญชีของสโมสร เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของกระบวนการขาย ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงมิถุนายน 2566 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่ายค่าธรรมเนียมทางกฎหมายและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 ล้านปอนด์ โดย เกลเซอร์ ได้ว่าจ้าง Raine Group ที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐอเมริกา เมื่อ 12 เดือนก่อนเพื่อทำข้อตกลง
เมื่อนำมาเทียบการจ่ายค่าเหนื่อยกับนักเตะภายในทีม บรูโน แฟร์นันด์ส รับรายได้ 240,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ เมสัน เมาท์ ที่ย้ายจากเชลซีมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ ได้ค่าจ้างในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ลุค ชอว์ นักเตะทีมชาติอังกฤษ มีรายได้น้อยกว่าที่ปรึกษาการขายของสโมสรที่ได้รับคำสั่งในปีที่ผ่านมาอย่างมาก
สำหรับข้อตกลงมูลค่า 1.3 พันล้านปอนด์ สำหรับเซอร์จิม แรตคลิฟฟ์เพื่อซื้อหุ้นเริ่มต้น 25 เปอร์เซ็นต์ ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว รายงานระบุต่อว่า การมาถึงของ แรตคลิฟฟ์ ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมตำนานของแมนยูรู้สึกมองไปในทิศทางที่ดี
นอกจากนี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า แรตคลิฟฟ์ ได้ขอคำแนะนำจากตำนานวัย 81 ปี ในขณะที่เขาวางแผนยกเครื่องทีมฟุตบอลครั้งใหญ่