"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รายงานบัญชีผลประกอบการสำหรับปีการเงิน 2023/24 โดยมุ่งไปในช่วงเวลาหลังจบอันดับ 5 ในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 และฤดูกาลถัดมาที่ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยลงไปเล่นยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ตามรายงานขาดทุนก่อนหักภาษี 57 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,451 ล้านบาท ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2024 ซึ่งมากกว่าที่ขาดทุนใน 12 เดือนก่อนถึง 48 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตามรายได้รวมของสโมสรในพรีเมียร์ลีกเพิ่มขึ้น 20 ล้านปอนด์เป็น 614 ล้านปอนด์ในปี 2023-24 และรายได้เชิงพาณิชย์สูงสุดเป็นประวัติการณ์เพิ่มขึ้น 36 ล้านปอนด์ เป็น 308 ล้านปอนด์ รวมทั้งรายได้จากการขายปลีกยังทำสถิติสูงสุดใน 7 สาขาทั่วโลกของสโมสรอีกด้วย
ส่วนการเปิดอัฒจันทร์แอนฟิลด์โร้ดใหม่ในช่วงรายงานนี้และจำนวนเกมการแข่งขันที่มากขึ้นที่แอนฟิลด์ ทำให้รายได้จากวันแข่งขันเพิ่มขึ้น 22 ล้านปอนด์ ส่งผลให้ "หงส์แดง" ทะลุหลัก 100 ล้านปอนด์เป็นครั้งแรก ด้วยตัวเลข 102 ล้านปอนด์
การสูญเสียรายได้จากการไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยรายได้จากสื่อลดลง 38 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือ 204 ล้านปอนด์
ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น ต้นทุนในธุรกิจก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนและค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ตั้งแต่ปี 2018 ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจาก 320 ล้านปอนด์เป็น 600 ล้านปอนด์ในปัจจุบัน เพิ่มขึ้น 88%
ลิเวอร์พูล ได้ผู้เล่นใหม่ 4 คนเข้าในทีมชุดใหญ่ใช้เงินไปราว 165 ล้านปอนด์ ในการเซ็นสัญญากับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซไล, วาตารุ เอ็นโด และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก
"หงส์แดง" อยู่ภายใต้คุมทัพของ อาร์เน่อ สล็อต ครองตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก มีคะแนนนำอาร์เซน่อลอยู่ 13 คะแนน มียอดการมีส่วนร่วมของแฟนๆ ทางโซเชียลมีเดีย 1,500 ล้านครั้ง และมีผู้ติดตามบนช่องทางโซเชียลมากถึง 37 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด
ตามรายงานปี 2024 ของ Brand Finance สโมสรมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสโมสรในพรีเมียร์ลีก
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP ข่าวกีฬา
- วิดีโอยอดนิยม
