เตรียมตัว! “เขาคิชฌกูฏ” เปิดสักการะรอยพระพุทธบาท 10 ก.พ.-9 เม.ย.นี้

9 ก.พ. 2567

เวียนมาอีกครั้ง! ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ 2567 หนึ่งปีมีครั้งเดียว เช็กวันเปิดปิด-วิธีจองคิวขึ้นเขา-ไฮไลต์ที่กราบไหว้ขอพร

แจกที่เที่ยว “งานตรุษจีน 2567” ทั่วไทย ชมไฟประดับ-ไหว้เทพ-รับคำอวยพรมงคล

เปิดพิกัด 14 ที่เที่ยววาเลนไทน์ เอาใจคนโสดให้หายเหงา

พังงา ยังครองแชมป์ “เมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวดีที่สุด” สองปีซ้อน

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏหรือเขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ และที่สำคัญคือการเดินทางไปนมัสการ “รอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ” หรือ “พระบาทพลวง” ที่มีจำนวนนักแสวงบุญที่เดินทางไปที่เขาคิชฌกูฏมีมากขึ้นในทุก ๆ ปี

รอยพระพุทธบาทเขาคิชณกูฎ (พระบาทพลวง) ไม่มีประวัติที่มาที่ไปอย่างชัดเจน

รวมเรื่องน่ารู้! เตรียมตัวก่อนขึ้นเขาคิชฌกูฏ 10 ก.พ.- 9 เม.ย. 2567 — หินลูกพระบาท

ทราบเพียงพบรอยพระพุทธบาทตั้งแต่ พ.ศ. 2397 ถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานอยู่บนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,050 เมตร อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี

และล่าสุด “ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ” ได้ประกาศกำหนดการวันเปิดป่าปิดงานประเพณีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงอยากชวนสายบุญให้เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนเดินทางไปสั่งสมบุญกัน!

เขาคิชฌกูฏ 2567 เริ่มวันไหน-ถึงวันที่เท่าไร

ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เปิดเผยกำหนดการงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) จันทบุรี ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 3 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี และในปีนี้จะตรงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ - 9 เมษายน 2567

ขึ้นเขาคิชฌกูฏเดินทางกี่กิโลเมตร

การขึ้นเขา สามารถเริ่มต้นเดินทางได้จากที่วัดพลวง และไปตามถนนในระยะทาง 8 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินทางเข้าไปได้ด้วยรถยนต์ จากนั้นต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1.2 กิโลเมตรก็ถึง

ขั้นตอนการขึ้นเขาคิชฌกูฏ

1.) ขึ้นรถ : สามารถขึ้นรถได้ที่คิวรถวัดกะทิง หรือ คิวรถวัดพลวง

2.) เดิน : เดินทางหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ คก.1 (พระบาลพลวง) หรือ เดินทางบ้านแกลง

แจกพิกัด “วัดแก้ชง” เสริมดวงปัง ต้อนรับปีมะโรง 2567

8 สถานที่ไหว้ “พระธาตุประจำวันเกิด” เสริมมงคลต้อนรับปี 2568

วิธีจองคิวรถขึ้นเขาคิชฌกูฏ

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เคยเปิดเผยไว้ว่า นอกจากจะเปิดให้จองคิวรถวัดพลวง วัดกะทิงแบบ Walk-in ได้ แต่พิเศษสำหรับคนที่ทำการจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน KCKQue มาแล้ว ไปถึงไม่ต้องต่อคิว สามารถเปิดแอปพลิเคชันให้เจ้าหน้าที่ขายตั๋วดู แล้วขึ้นได้เลย

โดยมีกำหนดการจอง คือ จะเปิดให้มีการจองคิว จำนวน 4,500 คน/ช่วงเวลา และ Walk-in จำนวน 1,500 คน/ช่วงเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลา คือ

ช่วงที่หนึ่ง 00.00-06.00 น.
ช่วงที่สอง 06.00-12.00 น.
ช่วงที่สาม 12.00-18.00 น.
ช่วงที่สี่ 18.00-24.00 น.

เงื่อนไขการเดินขึ้นเขาคิชฌกูฏ

นอกจากการจองคิวรถขึ้นเขาแล้ว ศูนย์ควบคุมการเดินทางของนักท่องเที่ยว ยังกำหนดจำนวนผู้เดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ จำนวน 500/คน ต่อวัน แบ่งเป็น ทางเดินหน่วย คก.1 (พระบาทพลวง) จำนวน 350 คน/วัน และ เดินขึ้นทางบ้านแกลง จำนวน 150 คน/วัน

แผนที่เดินทางไปเขาคิชฌกูฏ

สำหรับงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ แต่ละปีจะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาที่เขาคิชฌกูฏมากมาย เพราะในหนึ่งปีจะเปิดโอกาสให้ผู้แสวงบุญขึ้นไปได้เพียง 2 เดือนต่อปีเท่านั้น แต่แม้เส้นทางจะยากลำบาก แต่นี่คงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราได้เห็นความเชื่อและความศรัทธาอันแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในชีวิตที่ควรเดินทางไปให้ได้สักครั้ง

ไฮไลต์เขาคิชฌกูฏ

ที่นี่ นอกจากผู้แสวงบุญจะนิยมไปนมัสการ “รอยพระพุทธบาทพลวง” รอยพระพุทธบาทที่สูงสุดในประเทศ อีกสองจุดหมายที่ถือเป็นไฮไลต์ของเดินทางไม่น้อยกว่ากัน คือหนึ่ง “หินลูกพระบาท” หินก้อนใหญ่รูปทรงคล้ายบาตรคว่ำ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมหน้าผา เป็นร่มเงาให้แก่รอยพระพุทธบาทเสมอมา และที่น่าทึ่งคือหินก้อนใหญ่ยักษ์นี้ยังสามารถตั้งอยู่บนชะง่อนผาที่ลาดเอียงได้อย่างมั่นคงและดูโดดเด่นจนบางครั้งคล้ายลอยอยู่เหนือลานหิน ผู้คนจึงมักจะปิดทองที่หินลูกบาตร และมาสัมผัสก้อนหินเพื่อความเป็นสิริมงคล

และ สองคือ “ลานผ้าแดง” ซึ่งห่างจากบริเวณ “รอยพระพุทธบาทพลวง” 1 กิโลเมตร บริเวณนั้นเป็นมุมสูง เดิมผ้าแดงเหล่านี้ถูกแขวนไว้เพื่อบ่งบอกถึงอันตรายของพื้นที่ แต่หลังจากเริ่มมีคนเขียนข้อความอธิษฐานมากขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่จึงกลายเป็นจุดสำคัญที่ผู้คนจะนิยมไปเขียนคำอธิษฐานลงบน “ผ้าแดง” โดยมีความเชื่อว่าจะสามารถอธิษฐานได้เพียง 1 ข้อเท่านั้น

นอกจากนี้ในระหว่างที่เดินขึ้นไปยังลานผ้าแดง ยังเป็นมุมสูงที่สามารถมองย้อน กลับมายังลานพระบาทได้อย่างสวยงาม จึงกลายเป็นอีกจุดชมวิวแลนด์มาร์กที่หลายคนไม่อยากพลาด

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี