เที่ยวงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” ชมความงามพร้อมประวัติศาสตร์ยามค่ำคืน

6 ก.พ. 2567

ชวนเที่ยวงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM เรียนรู้ประวัติศาสตร์วังพญาไทย พร้อมชมการแสดงแสง สี เสียง ยามค่ำคืนครั้งแรกในไทย

พระราชวังพญาไท สถานที่ในประวัติศาสตร์ของไทยที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยเคยเป็นที่ประทับของรัชกาลต่างๆ รวมถึงพระบรมวงสานุวงศ์ และยังเคยเป็นโรงแรมชั้นหนึ่ง, สถานีวิทยุกระจายเสียง, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของ “ดุสิตธานี” เมืองจำลองประชาธิปไตย ในปัจจุบันกลายมาเป็น พระราชวังพญาไท พิพิธภัณฑ์สำหรับประชาชน ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน จึงได้มีการจัดงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM เป็นการเปิดให้ชมพระราชวังฯ ยามค่ำคืนครั้งแรกของไทยอีกด้วย

ตรวจผลออกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 5 ปี งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567

นิด้าโพลเผยผลสำรวจเรื่อง “เหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้าง ในปี 2566 ที่ผ่านมา”

เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ราชวิถีเป็นเพียงถนนสายสั้นๆ ที่เริ่มจากแม่น้ำเจ้าพระยา มาจนสุดด้านหลังพระราชวังดุสิต สมัยนั้นรอบข้างเป็นสวนผักและไร่นา มีคลองสามเสนไหลผ่าน เป็นพื้นที่โล่ง กว้าง อากาศโปร่งสบาย จึงเป็นที่ต้องพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5) เป็นอย่างมาก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อที่ดินประมาณ 100 ไร่ เพื่อใช้ทดลองปลูกธัญพืช และเป็นที่ประทับสำราญพระราชอิริยาบถ

ในปี พ.ศ. 2452 ได้เริ่มก่อสร้าง “พระตำหนักพญาไท” ชาวบ้านเรียกว่า “วังพญาไท” โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นพระตำหนักที่ประทับ รวมถึงพื้นที่ตรงข้ามกับพระตำหนัก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพื้นที่สำหรับเสด็จฯ ทอดพระเนตรการทำนา ปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ รวมทั้ง โรงนาที่ได้พระราชทานนามว่า “โรงนาหลวงคลองพญาไท” พร้อมกับตั้งการพระราชพิธีเริ่มนาขวัญ “พระตำหนักพญาไท”

เมื่อ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่6) เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงย้ายมาประทับ ณ พระตำหนักแห่งนี้เป็นการถาวร ตราบจนเสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. 2462 หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระตำหนักพญาไท พระราชทานแก่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงกรุงเทพฯ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกขึ้นเป็น “พระราชวังพญาไท” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมชนกาธิราช และ สมเด็จพระบรมราชชนนี และให้สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่หลายองค์ด้วยกัน ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีเฉลิมพระที่นั่งตามพระราชประเพณี เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2465 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของพระราชวังสำคัญแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ไทย อีกทั้ง พระราชวังพญาไท ยังเป็นที่ตั้งของ “ดุสิตธานี” เมืองจำลองประชาธิปไตยตามพระราชดำริอีกด้วย

ต่อมารัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่7) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ กรมรถไฟหลวง ปรับปรุงพระราชวังพญาไทเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งสำหรับให้ชาวต่างชาติ สำหรับรองรับพระราชดำริการจัดงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ “โฮเต็ลพญาไท” เริ่มดำเนินกิจการเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468

ในระหว่างนั้นได้มีการใช้พระราชวังพญาไทเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของสยาม ออกอากาศเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 กรมรถไฟได้ดำเนินการโฮเต็ลพญาไทไปจนถึง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2475 และปิดกิจการลง เนื่องจากเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง

ในเวลาต่อมากองทัพบกได้ปรับปรุงพระราชวังพญาไทให้เป็นสถานพยาบาล ได้มีการสร้างโรงพยาบาลทหารบกขึ้น ในบริเวณใกล้เคียงกับพระราชวัง และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ขนานนามโรงพยาบาลเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติว่า “โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า”

ด้วยประวัติศาสัตร์อันยาวนานกว่า 100 ปีของ “พระราชวังพญาไท” มูลนิธิอนุรักษ์ พระราชวังพญาไท ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จึงได้จัดงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM ให้ประชาชนได้เข้าชมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (NIGHT MUSEUM) เพื่อเฉลิมฉลองที่พระราชวังพญาไทมาอายุครบรอบ 101 ปี ถือเป็นหมุดหมายสำคัญยิ่ง ที่ศิลปินผู้ออกแบบจะได้แสดงสถานที่อันทรงคุณค่าสู่สายตาประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาชื่นชมความงดงามของ พระราชวังพญาไท

โดยทางคณะดำเนินงาน ได้มีการออกแบบสร้างสรรค์ระบบแสงสีเสียงให้กับพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (NIGHT MUSEUM) อันเป็นเอกลักษณ์ที่รังสรรค์ออกมาเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM ที่จะเกิดขึ้นนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่จะได้รับชมความงามของพระราชวังพญาไทในยามค่ำคืน

ร่วมตื่นตาตื่นใจกับความงามของงานศิลปะที่สร้างจากการฉายแสงภาพบนอาคารเคลื่อนไหวเสมือนเข้าสู่ภาพศิลปะนั้นไม่ว่าจะเป็น พระที่นั่งพิมานจักรี, พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน, พระที่นั่งเทวราชสภารมย์, ห้องธารกำนัล หรือ ห้องรับแขก, สวนโรมัน และสถานที่สักการะท้าวหิรัญพนา ด้วยเป้าหมายของคณะผู้จัดทำที่ต้องการจะทำให้งานสมโภชของคนไทยทัดเทียมงานสมโภชระดับโลก

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงาน แนะนำให้จองผ่าน 3 ช่องทาง คือ Agoda, KKday และ Zipevent พร้อมติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับงานเพิ่มได้ที่ เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม 101wangphyathai

การเดินทางไป "พระราชวังพญาไท"

“พระราชวังพญาไท” สามารถเดินทางไปได้หลายวิธี ดังนี้

รถยนต์ส่วนบุคคล : เดินทางโดยรถยนต์ เลี้ยวเข้าถนนราชวิถีและขับตรงไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาเพื่อจอดรถภายในโรงพยาบาล

รถโดยสารประจำทางสาย : เดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ สาย 8, 12, 14, 18, 28, 92, 97, 108, ปอ.92, 509, 522, 536, ปอ.พ.4

รถไฟฟ้าบีทีเอส : เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ลงที่สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ออกทางออกที่ 3 (ลงฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี) ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามแล้วเดินทางเท้าตรงมาเรื่อยๆ ทางแยกตึกชัย จนถึงโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า