วัฏจักรเศรษฐกิจไทย-โลก "กำลังจะเปลี่ยน" ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า
บล.ไทยพาณิชย์ ประเมิน วัฏจักรเศรษฐกิจโลกและไทยได้เปลี่ยนจากภาวะ reflation เข้าสู่ภาวะ stagflation ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และมีโอกาสที่เข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลกส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงจากราคาน้ำมันและราคาพลังงานอื่นๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อเนื่องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าคาด และไทยจะได้รับผลกระทบจำกัดจากความขัดแย้งในปัจจุบัน
ผู้ค้าปุ๋ย มองวิกฤตปุ๋ยลากยาว 3-5 ปี นักวิชาการแนะ 3 แนวทางแก้ปัญหา
หนุนรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว บีโอไอเพิ่มสิทธิประโยชน์ภาษีสถานีชาร์จอีวี
บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) ประเมินว่า วัฏจักรเศรษฐกิจโลกและไทยได้เปลี่ยนจากภาวะ reflation เข้าสู่ภาวะ stagflation ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
และคาดว่า ธปท.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 0.25% (25 Basis Points) ในครึ่งปีหลังWorld Bank - ADB พาเหรดหั่นการขยายตัวเศรษฐกิจเอเชียรวมไทย
สินค้าแพงทุกอย่าง! ดันเงินเฟ้อ มี.ค.65 พุ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี คนไทยเตรียมกระเป๋าแฟบ
ด้านเศรษฐกิจไทย เป็นผลกระทบทางอ้อมผ่านราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นกระทบเงินเฟ้อและนโยบายการเงินมากกว่า ซึ่งทำให้ไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ stagflation ในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นเป็นความเสี่ยงด้านนโยบายที่อาจส่งผลทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.63% ในขณะที่ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ stagflation ย่อมมีมากขึ้น
ส่วนความเสี่ยงด้านการส่งผ่านทางการเงินมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ แต่ความเสี่ยงในการโอนย้ายและการปรับโครงสร้างพอร์ตลงทุนอาจต้องใช้เวลาในการจัดการ SCBS มองว่าหุ้นเชิงรับจะปรับตัว outperform ได้อย่างต่อเนื่อง หุ้นพลังงานต้นน้ำเป็นตัวเลือกที่ดีในการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อสูง โดยยังคงชอบหุ้นคุณภาพที่มีค่า beta ต่ำเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวน
ขณะที่ โอกาสการลงทุนจะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวกับภาคบริการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจการกำหนดราคาสูง กลุ่มอุปโภคบริโภคภายในประเทศ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นถือว่าการผ่อนคลายข้อจำกัดล็อกดาวน์กิจกรรมการเดินทางทั้งในและระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอดปี 2022
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ Chief Research Officer บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า ต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลทำให้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น มีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตลงและทำให้เส้นทางการเติบโตทางเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
ซึ่งจะส่งผลทำให้วัฏจักรเศรษฐกิจเปลี่ยนจากภาวะ reflation เข้าสู่ ภาวะ stagflation ทั้งนี้แม้ว่าโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2022 จะมีมากขึ้น แต่จะเกิดภาวะถดถอยที่ไม่รุนแรงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันไม่ได้มีความไม่สมดุลมากจนต้องแก้ไขให้เกิดความสมดุลควบคู่ไปกับการผ่อนคลาย ข้อจำกัดการเดินทางและการเปิดประเทศ
“นทท.รัสเซียหาย” พิษสงครามซ้ำเติมความหวังการท่องเที่ยวฟื้นตัว
โดย บล.ไทยพาณิชย์ คาดว่า เป้า SET Index ปี 2022 อิงกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1660 จุด เข้าซื้อที่ 1550 - 1600 จุด ขณะที่ระดับขายทำกำไรอยู่ที่สูงกว่า 1780 จุด โดยคาดว่า SET จะปรับฐานเล็กน้อยใน 2Q22 เพื่อซึมซับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ stagflation
ในครึ่งปีหลังจะมีโมเมนตั้มที่ดีขึ้นซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเปิดประเทศและการฟื้นตัวหลัง COVID-19 คลี่คลาย ประกอบกับฐานต่ำของปีก่อนมีโอกาสสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ Sell in May โดยการย่อตัวลงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้าง position เนื่องจากเศรษฐกิจไทยดูเหมือนจะเกิดภาวะ quasi - reflation
กลยุทธ์การลงทุน มองภาพรวมปี 2022 เน้นไปที่ธีมมหภาคและจุลภาค ประกอบด้วย
- หุ้นที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูง (มาร์จิ้นสูงและมีเสถียรภาพ)
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ
- หุ้นเติบโตที่มีราคาสมเหตุสมผล
- หุ้นคุณภาพ ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นเชิงรับเพื่อยึดหลักความระมัดระวังในช่วงที่มีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงโดยเชื่อว่าหุ้น domestic ที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูงและงบดุลแข็งแรงน่าจะได้รับความสนใจมากกว่าหุ้นที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหนักกว่าหุ้น domestic
นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่หุ้นที่สามารถรับมือกับราคาน้ำมันและเงินเฟ้อสูง โดยหุ้นเด่นใน 2Q22 คือ AOT BDMS CRC GULF และ PTTEP