ยอดโอนบ้าน-คอนโด ไตรมาส 1/ 67 ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปี : PPTVHD36

ยอดโอนบ้าน-คอนโด ไตรมาส 1/67 ขยายตัว13.4% ต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี เหตุกำลังซื้อน้อยลง พบชาวเมียนมา ซื้อคอนโดเพิ่มขึ้น หนีความไม่สงบในประเทศ

เผยแพร่: 16 พ.ค. 2567

ยอดโอนบ้าน-คอนโด ไตรมาส 1/ 67 ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปี

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย พบ การชะลอตัวอย่างมากของตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1 ปี 2567 ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน จากปัจจัยประชาชนมีหนี้เพิ่มขึ้นรายได้ไม่เพียงพอ ทำให้กำลังซื้อลดลง รวมถึงสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ และมาตรการ LTV ทำให้ไม่สามารถกู้ได้ 100%

โดยจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ มีเพียง 72,954 หน่วย ขยายตัวลดลง 13.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำสุดในรอบ 25 ไตรมาส หรือกว่า 6 ปี (2561-Q1/2567) แบ่งเป็น บ้านแนวราบ ลดลงสูงสุด 18.9% และคอนโด ลดลง 0.6%

ส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย จำนวน 208,732 บาท ขยายตัวลดลง 13.4% ถือว่าต่ำสุด ในรอบ 19 ไตรมาส หรือเกือบ 5 ปี (Q3/2562-Q1/2567) แบ่งเป็น บ้านแนวราบ ลดลงมากที่สุด 14.6% และคอนโด ลดลง 10.7% ซึ่งตลาดในระดับราคาเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป มีการโอนกรรมสิทธิ์บ้านใหม่ มากกว่าบ้านมือสอง ขณะที่ ตลาดในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสอง สูงกว่าบ้านใหม่

สำหรับจำนวนหน่วยที่ได้รับการออกใบอนุญาตจัดสรร มีเพียง 16,362 หน่วย ลดลง 19.7% และการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ชะลอตัวลง ได้รับอนุญาตเพียง 8.8 ล้านตารางเมตร ลดลง 12%

ทั้งนี้ การที่กำลังซื้อของประชาชนอ่อนแอลง ส่งผลให้มูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ มีเพียง 121,529 ล้าบาท ขยายตัวลดลง 20.5% ซึ่งน่าจะเป็นผลจากความสามารถในการขอสินเชื่อที่ลดลง และสถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างทั่วประเทศ มีมูลค่าสูงขึ้นถึง 4.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8%

นอกจากนี้ สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ พบว่า จำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 4.3% อยู่ที่ 3,938 หน่วย มูลค่ากว่า 18,013 ล้านบาท มีข้อสังเกตว่า สัญชาติที่ซื้อมากที่สุดอันดับหนึ่ง คือ จีน ตามด้วยเมียนมา และรัสเซีย ซึ่งเมียนมา ซื้อห้องชุดเพิ่มขึ้นแซงหน้ารัสเซียขึ้นมาเป็นอันดับ 2 คาดว่าเป็นผลมาจากความไม่สงบในประเทศ

สำหรับแนวโน้มทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 คาดว่า จะยังชะลอตัวต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงที่ประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและท่องเที่ยว ซึ่งตลาดจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 เพราะรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง คาดการณ์ว่า ช่วงครึ่งปีหลัง จะส่งผลทำให้หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยขยายตัวได้ที่ 5.1%

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบที่ต้องติดตาม ทั้ง มาตรการควบคุมตามเกณฑ์ LTV และหนี้ครัวเรือน ที่ทำให้เกิดความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งหากสถาบันการเงิน ยังคงปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง ก็จะเป็นปัจจัยร้างการขยายตัวของตลาดในปีนี้ได้