จีนชี้ สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจุดเริ่มต้นแก้ไขสิ่งผิด
รัฐบาลจีนมอง การที่สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทบทวนการใช้มาตรการกำแพงภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ
หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าให้กับสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสามาร์ตโฟน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศจีน ทำให้เกิดความคาดหวังในเชิงบวกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจผ่อนคลายมาตรการด้านภาษี
โดยรัฐบาลจีนมองว่า การยกเว้นภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เหล่านีัอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทบทวนการใช้มาตรการกำแพงภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ

โดยกระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ระบุว่า ขณะนี้ “กำลังประเมินสถานการณ์และผลกระทบ” จากการที่สหรัฐฯ ยกเว้นมาตรการภาษีตอบโต้ต่อสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ แผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายประเภท
โดยแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนยังระบุว่า การยกเว้นภาษีให้กับสินค้าเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดนั่นคือ การใช้มาตรการกำแพงภาษี ซึ่งจีนเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการดังกล่าว
ปัจจุบัน มากกว่า 20% ของสินค้าเทคโนโลยีที่ส่งออกมายังสหรัฐฯ มีต้นทางมาจากจีน ขณะที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ ในอัตรา 125% เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่ กรมศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ จะประกาศรายชื่อสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการงดเว้นภาษี
ก่อนหน้านี้ บริษัทเทคโนโลยีได้เตือนรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศจะถีบตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตในจีน โดยไอโฟนอาจมีราคาแพงขึ้นถึง 3 เท่า เพราะ 80% ของชิ้นส่วนไอโฟนที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ใช้จีนเป็นฐานผลิตหลัก ส่วนที่เหลืออีก 20% มาจากอินเดีย
ด้าน แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า การยกเว้นที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งต้องการให้เวลามากขึ้นกับบริษัทผู้ผลิต ในการย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศให้เร็วที่สุด
ด้าน สเตฟเฟน เฮเบอชไตรต์ โฆษกรัฐบาลเยอรมนี ระบุว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้กัน ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งทั้งสองประเทศควรเจรจา เพื่อร่วมกันหาทางออกดีที่สุดสำหรับแต่ละฝ่าย
ขณะที่สหภาพยุโรปประเมินว่า หากมาตรการภาษีตอบโต้การค้าของสหรัฐฯ กลับมามีผล หลังครบระยะเวลางดเว้น โดยอียูเผชิญกับอัตราเรียกเก็บ 20% จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหภาพหดตัว 0.2% ไปจนถึงปี 2027 หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ และตัวเลขอาจติดลบมากชึ้นอีก หากมาตรการของสหรัฐ “มีผลถาวร” และคู่ค้าดำเนินมาตรการตอบโต้