ตลาดอาหารเจ ปี 68 โต! ซีพีแรม คาด ทั้งปีมูลค่าบวก 6% แตะ 48,000 ล้านบาท!

นายธีรพันธุ์ ลักษณาภิรมย์  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการขายและการตลาด บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ แนวโน้มการได้รับความสนใจจากประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยที่คนเลือกรับประทานอาหารเจมากขึ้นนั้น มาจากทั้งเรื่องความเชื่อ และเรื่องของสุขภาพขณะที่ดีมานด์ของตลาดอาหารแพลนต์เบสในปีที่แล้ว มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 43,000 ล้านบาทซึ่งในปีนี้คาดการณ์ว่าจะโตขึ้นประมาณ 6% หรืออยู่ที่ประมาณ 48,000 ล้านบาท 

 

นายธีรพันธุ์ ระบุว่า การที่ตลาดเติบโตขึ้นนั้น มาจากเทรนด์ของผู้คนที่หันมาใส่ใจสุขภาพ เรื่องของสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนมากขึ้น ส่งผลให้ความนิยมของผู้บริโภคหันมาบริโภคอาหารแพลนต์เบสมากขึ้น 

สำหรับแนวโน้มการเติบโตในระยะถัดไป นายธีรพันธุ์ ระบุว่า ผู้คนจะหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้จะเป็นตัวกระตุ้น ให้มูลค่าของตลาดอาหารแพลนต์เบสเติบโตต่อไปได้ในระยะข้างหน้า 
 
นอกจากนี้นายธีรพันธุ์ ระบุว่า ในส่วนของ ซีพีแรม คาดว่ามูลค่าของธุรกิจอาหารแพลนต์เบสจะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว 

"เทศกาลกินเจปีนี้เนื่องจากว่า เราดูจากกระแสความนิยมและสัญญาณการบริโภคอาหารเจที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยหลักตามความนิยมก็คือมาจากความเชื่อ อีกด้านหนึ่งก็คือด้านสุขภาพ กระแสความนิยมด้านสุขภาพค่อนข้างจะมาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือความยั่งยืนทางด้านอาหาร ตรงนี้กระแสก็ค่อนข้างแรง"

นายธีรพันธุ์ ได้ให้ข้อมูลด้วยว่า จาก แนวโน้มการเติบโตของตลาดอาหารแพลนต์เบส ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ ซีพีแรม ต้องปรับตัว และพยายามพัฒนาคุณภาพของอาหารที่ทำจากพืช ให้ออกมามีรสชาติเหมือนอาหารปกติทั่วไปให้มากที่สุด ขณะเดียวกันในมุมของความยั่งยืนด้านอาหาร ซีพีแรม ได้ปรับ การเลือกใช้แพ็กเกจจิ้ง ที่สามารถ ย่อยสลายได้ หรือนำกลับมารีไซเคิลได้ เพื่อตอบโจทย์กับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

"จากการศึกษาข้อมูลเราพบว่าคนรุ่นใหม่ มีสัดส่วนที่หันมาสนใจบริโภคการกินเจมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันคนรุ่นปกติที่บริโภคอยู่แล้ว ก็ยังบริโภคกันต่อ นี้เป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้ตลาดอาหารเจเติบโตขึ้น"

ส่วนแนวทางในการทำการตลาด เพื่อรับมือกับความนิยมของอาหารเจที่เพิ่มขึ้นในปีนี้นั้น ซีพีแรม ได้การเตรียมการไว้ล่วงหน้า พร้อมร่วมมือกับร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงห้างขนาดใหญ่ ในการจำหน่ายสินค้า และยัง เพิ่มกำลังการผลิตให้ไม่ต่ำกว่า 25% พร้อมกับตั้งราคาขายในปีนี้ให้ต่ำสุดอยู่ที่ 32  บาท และสูงสุดอยู่ที่ 79 บาท เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอาหารเจได้ง่าย เนื่องจาก ซีพีแรม บริหารเองตลอดทั้งซัพพลายเชน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จึงสามารถควบคุมราคาต้นทุนวัตถุดิบได้