หุ้นไทยวันนี้ (7 พ.ค.64) ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,585.03 จุด เพิ่มขึ้น 13.12 จุด
หุ้นไทยวันนี้ (7 พ.ค.64) ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,585.03 จุด เพิ่มขึ้น 13.12 จุด (+0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 93,877.50 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียบวกเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส
ผู้ว่า ธปท. ยอมรับ งานยาก งานยาว ความหวังเดียว "วัคซีนโควิด” คือพระเอก
แผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ปี 64 เป้า 50 ล้านคน เตรียมกระจายหน่วยเคลื่อนที่
ปัจจัยจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี และผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจขึ้น อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจของจีนก็ออกมาดี
ส่วนตลาดบ้านเราจัดได้ว่าได้รับรู้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก็ต้องฝากความหวังที่วัคซีนโควิด-19 ซึ่งยังมีความไม่แน่นอน และเป็นปัจจัยถ่วงตลาดฯ ทำให้ต้องติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแต่ละวันต่อไป นอกจากนี้ บ้านเรายังวิตกแนวโน้มที่อาจถูกปรับลดประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจด้วยอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ และอาจจะปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด เพราะตัวแปรหลักยังอยู่ที่โควิด-19 และวัคซีนที่เป็นความหวัง โดยให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610 จุด
สัปดาห์หน้าให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งหลายบริษัทฯก็ประกาศออกมาดี ทำให้จะมีการปรับเพิ่มประมาณการได้ต่อไป ส่วนนอกประเทศคืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และจับตาสหรัฐฯในการผลักดันมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มได้เมื่อไร
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DMT มูลค่าการซื้อขาย 7,334.99 ล้านบาท ปิดที่ 15.90 บาท ลดลง 0.10 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,191.61 ล้านบาท ปิดที่ 402.00 บาท เพิ่มขึ้น 35.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,005.92 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,687.42 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,423.60 ล้านบาท ปิดที่ 464.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าคาด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.5-1.0% โดยตลาดบ้านเรามีหุ้น DELTA ขึ้นนำ ประกอบกับมีแรงซื้อหุนหุ้นขนาดใหญ่ อย่างกลุ่มพลังงานและค้าปลีกเข้ามาช่วยหนุนด้วย แต่เมื่อดัชนีฯขึ้นมาทดสอบแถว 1,585 จุดก็เผชิญแรงขายทำกำไรเข้ามากดดัน
ยังวิกฤต! ติดเชื้อ +2,044 ดับอีก 27 ชีวิต 3 ชุมชนกทม.หนัก คลัสเตอร์โยงห้าง -ท่ารถเมล์
“อนุทิน” เผย ไทยเตรียมรับ วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส เริ่ม ก.ค.นี้
อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ หากอออกมาดีก็เชื่อว่าเม็ดเงินจะไหลเข้าสหรัฐฯมากกว่าเอเชีย และจับตาประเด็นการทำ QE ของสหรัฐฯเป็นหลัก อาจลดวงเงินเร็วกว่าคาด หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี และยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ซึ่งจะหนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงยืนในแดนบวกต่อไปได้ โดยมีแนวรับ 1,570-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 ถัดไป 1,600-1,605 จุด พร้อมแนะติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DMT มูลค่าการซื้อขาย 6,000.25 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,928.15 ล้านบาท ปิดที่ 400.00 บาท เพิ่มขึ้น 33.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,651.04 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,565.69 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,469.17 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
เปิดการซื้อขาย
หุ้นไทยวันนี้ (7 พ.ค.64) ดัชนีล่าสุด (10.56 น.) อยู่ที่ 1,587.03 จุด เพิ่มขึ้น +15.12 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 33,631.57 ล้านบาท
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯลดลง 92,000 ราย สู่ระดับ 498,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือน มี.ค.63
ราคาทองวันนี้ – 7 พ.ค. 64 ปรับราคา 4 ครั้ง รวมบวกจากเมื่อเช้า 50 บาท
"ยิ่งใช้ ยิ่งได้ " กระตุ้นกำลังซื้อคนไทยกระเป๋าหนัก
หุ้นไทยวันนี้ (6 พ.ค.64) ปิดเพิ่มขึ้น 22.69 จุด แรงหนุนเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการเล่นเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะผลประกอบการจะออกมาดีด้วย อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงาน ที่เริ่มทยอยประกาศงบฯออกมาในช่วงนี้ โดยยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไปในสัปดาห์หน้า
พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด
แนวโน้มก่อนเปิดการซื้อขาย
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า หุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจอออกมาดีทั้งสหรัฐและยุโรป แม้มีข่าวประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บางคนออกมาเตือนเรื่องตลาดหุ้น
ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE สัญญาณว่าหลายประเทศคงดำเนินการในทิศทางเดียวกัน แต่มองว่าตราบใดที่เฟดยังไม่ปรับลด QE ตลาดหุ้นก็ยังน่าจะไปต่อได้
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราคงจะได้รับผลดีจากตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นขาขึ้น และนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อบ้างแล้ว รวมถึงการเลื่อนใช้เกณฑ์ฟรีโฟลตใหม่ก็ช่วยหนุนให้สามารถเล่นเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์ โดยเฉพาะหุ้นร้อนแรงอย่าง DELTA และอาจมีหุ้นตัวอื่น ๆ ตามมา อีกทั้งคาดว่าจะมีการเล่นเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนด้วย
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ยังไม่ดีขึ้นถ่วงตลาดอยู่ เป็นผลให้หลายสำนักวิจัยอาจทยอยปรับลดประมาณการ GDP ไทยลง และยังต้องติดตามภาครัฐฯจะมีมาตรการคุมเข้มออกมาเพิ่มอีกหรือไม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีออกมาแล้ว
พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด
สถานการณ์ดาวโจนส์นิวไฮ-น้ำมันดิบติดลบกังวลโควิดอินเดียผู้นำเข้าน้ำมันอันดับ 3 ของโลก
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,548.53 จุด เพิ่มขึ้น 318.19 จุด หรือ +0.93% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,201.62 จุด เพิ่มขึ้น 34.03 จุด หรือ +0.82% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,632.84 จุด เพิ่มขึ้น 50.42 จุด หรือ +0.37%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความใช้น้ำมันในอินเดียซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐชะลอตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 64.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถานการณ์หุ้นเอเชีย
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.13 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.92 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 83.67 จุด
ค่าเงินบาท เงินบาทเปิด 31.19 แข็งค่าจากวานี้ตามภูมิภาค หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลลาร์อ่อน