เจาะตลาดเมืองรองจีน โอกาสทองส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงไทย
พาณิชย์ แนะผู้ประกอบการไทยขยายตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไปเมืองรองจีน หลังปี 2566 พบความต้องการสินค้ากลุ่มดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ไทยเป็นประเทศผู้นำด้านการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 4 ของโลก มีส่วนแบ่ง 8.39% รองจากเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส
ทั้งนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในจีนเป็นตลาดศักยภาพที่ไทยน่าจะมีโอกาสขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเติม โดยในปี 2566 จีนนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทยเป็นอันดับ 3 ส่วนแบ่ง 8.02% รองจากสหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์
จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ที่เผยแพร่รายงานเรื่อง ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ระบุว่า ในปี 2566 สุนัขและแมวในเขตเมืองทั่วประเทศจีนมีมากกว่า 120 ล้านตัว (เพิ่มขึ้น 4% จากปี 2565) โดยแมวมีถึง 70 ล้านตัว (เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2565) ขณะที่สุนัขมี 52 ล้านตัว (เพิ่มขึ้น 1% จากปี 2565) ส่งผลให้ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น
“ประทีป” ปัดเป็นเทวดา สคบ. ลั่นไม่เกี่ยวข้องบอสพอล-ไม่มีใครสั่งได้!
LINE เตรียมยุติใช้งานเวอร์ชัน 12.18.0 บน iOS - Android พ.ย.นี้
โดรนฮิซบอลเลาะห์เจาะระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลได้?
ข้อมูลยังระบุว่ามณฑลเหลียวหนิง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และติด 1 ใน 10 อันดับของมณฑลที่มีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากที่สุด ขณะที่ผู้เพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงของจีนมักนิยมใช้อาหารสัตว์นำเข้าคุณภาพสูง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและรูปลักษณ์ที่ดีของสัตว์เลี้ยง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาหารสัตว์เลี้ยงนำเข้าจากต่างประเทศเติบโตในจีน
- สินค้าต้องวางจำหน่ายสม่ำเสมอ/ไม่ขาดตลาด
- อาหารสัตว์เลี้ยงต้องสดใหม่
- ควบคุมราคาไม่ให้แตกต่างกันมากในแต่ละช่องทางการจำหน่าย
- บรรจุภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงต้องสวยงามสะดุดตา รวมทั้งมีข้อมูลอธิบายคุณค่าทางโภชนาการและคุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์
ภาพรวมของการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงไทยในปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกรวม 2,092.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (72,250 ล้านบาท) หดตัว 15% จากปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มาเลเซีย อิตาลี และออสเตรเลีย
ส่วน 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ปี 2567 ไทยมีมูลค่าการส่งออก 1,769.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (63,453 ล้านบาท) ขยายตัว 34.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยขยายตัวดีในทุกตลาด
หากพิจารณาเฉพาะตลาดจีนในปี 2566 ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 13 ของไทย มูลค่าส่งออก 38 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,310 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 1.82% แม้ส่งออกปี 2566 จะหดตัวที่ 42.2% แต่ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้กลับมาขยายตัวที่ 9% โดยคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 27.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (974 ล้านบาท) ขณะที่มูลค่าการนำเข้าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ไทยมีส่วนแบ่งมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 7.09% เป็น 9.38% ขณะที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับที่ 1 ของจีน มีส่วนแบ่งมูลค่านำเข้าจากจีนลดลงจาก 67.24% เป็น 66.89%
จีนเป็นตลาดศักยภาพที่น่าสนใจสำหรับสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง ผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยสามารถเจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยควรศึกษารสนิยม/พฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนั้น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มาตรฐาน และความแตกต่างของสินค้า รวมถึงให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืน