Chery Group ใช้แบรนด์ OMODA&JAECOO บุกตลาดในประเทศไทย
OMODA&JAECOO กางแผนธุรกิจในประเทศไทย 3 เฟส 2567-2573 ส่งรุ่นแรก OMODA 5 EV ลงตลาด ก.พ. ปี 2567 ตั้งเป้าขายปีแรก 1.8 หมื่นคัน เตรียมลงทุนระยะยาว
นาย ชี่ เจี๋ย (Qi Jie) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โอโมด้าและเจโก้ ประเทศไทย (Country Director OMODA&JAECOO Thailand) เปิดเผยว่า ภายหลังการพิจารณาการเลือกใช้แบรนด์ต่าง ๆ ของ Chery Group ในประเทศไทย บริษัทได้ตัดสินใจทำตลาดในประเทศไทยด้วยแบรนด์ OMODA&JAECOO ซึ่งได้สำรวจตลาดพิจารณาตามความเหมาะสมสำหรับลูกค้าชาวไทยโดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ในช่วง 1-2 เดือนจากนี้
ลองสัมผัส Chery Omoda 5 ผลิตภัณฑ์ยุคใหม่ ก่อนเปิดตัวจริงในไทยปี’67
Chery Group ยืนยันบุกไทยต้นปี'67 ลุ้นลงทุนฐานผลิตรถพวงมาลัยขวา
Chery รถจีนรายใหม่ร่วมทุนไทย กางแผนตั้งโรงงานผลิต-เปิดตัวรถอีวี ปี'67
สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยจะแบ่งเป็น 2 บริษัทด้วยกันได้แก่ 1.บริษัทจัดจำหน่ายและการตลาด และ 2.บริษัทผลิตรถยนต์ ทั้งนี้บริษัทจัดจำหน่ายและการตลาดจะเป็นบริษัทที่ลงทุนจาก Chery International (บริษัทแม่จากประเทศจีน) ในสัดส่วนการลงทุน 100% ส่วนบริษัทผลิตรถยนต์จะแบ่งเป็นระยะ (Phase) ต่าง ๆ 3 ระยะดังนี้
- ระยะที่ 1 (Phase 1) ปี 2567-2568 จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านการผลิตในประเทศไทย ในรูปแบบการ จ้างผลิต เพื่อรองรับการทำตลาดในประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะมีกำลังการผลิตรวมสูงสุด 2 หมื่นคัน/ปี และตั้งเป้าหมายต่อปีอยู่ที่ 1.8 หมื่นคัน/ปี
- ระยะที่ 2 (Phase 2) ปี 2569-2570 จะมีการลงทุนก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาในประเทศไทย ด้วยการลงทุนจากบริษัทแม่ประเทศจีน เพื่อรองรับการทำตลาดในประเทศและส่งออกในภูมิภาคอาเซียนและตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา คาดว่าจะมีกำลังการผลิตสูงสุด 5 หมื่นคัน/ปี และตั้งเป้าหมายอยู่ที่ ขายในประเทศมากกว่า 4.5 หมื่นคัน และ ส่งออกมากกว่า 5,000 คัน
- ระยะที่ 3 (Phase 3) ปี 2571-2573 จะเพิ่มปริมาณการลงทุนเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกไปทั่วโลก คาดว่าจะมีกำลังการผลิตสูงสุด 1 แสนคัน/ปี และตั้งเป้าหมายอยู่ที่ ขายในประเทศมากกว่า 6 หมื่นคัน และส่งออกมากกว่า 2.5 หมื่นคัน
สำหรับการผลิตในประเทศไทยในระยะแรกคาดว่าจะเริ่มต้นผลิตได้ในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2567 โดยรุ่นแรกที่จะเริ่มผลิตในประเทศไทยคือ OMODA 5 EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%
ในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการพูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ถึงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนและเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเริ่มต้นการเจรจาใหม่อีกครั้งเพื่อเข้าร่วมโครงการสนับสนุนผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย คาดว่าภายใน 1-2 เดือนจะเข้าสู่ขั้นตอนการบวนการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน
ประกาศฉบับที่ 16 รับมือ “ฝนตกหนัก” จนถึง 6 ก.ย.
ลิงก์ดูสดวอลเลย์บอลหญิง ! ไทย พบ เวียดนาม ชิงแชมป์เอเชีย AVC 2023 วันที่ 4 ก.ย. 66
บีวายดี ประกาศเลิกติดชื่อแบรนด์ Build Your Dreams ที่ฝากระโปรงท้าย
ด้านแผนการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทจะเปิดตัว OMODA 5 EV รุ่นนำเข้า ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2567 และหลังจากนั้นจะเปิดตัว JAECOO 7 PHEV, ในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2567 จะเปิดตัว OMODA 5 HEV และมกราคม 2568 จะเปิดตัว JAECOO 8 PHEV
ทั้งนี้ แบรนด์ OMODA และ JAECOO มีจุดเด่นที่แตกต่างกันด้วย ความมีสไตล์ กับ ความพรีเมี่ยม ตามลำดับ สอดคล้องกับพลังงานทางเลือกใหม่และเทคโนโลยี จึงมีการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์รองรับทุกความต้องการ และอาจจะมีการนำแบรนด์ต่าง ๆ ของ Chery Group เข้ามาทำตลาดในอนาคต
พาชมบูธแบรนด์ Chery โชว์ไฮไลท์ในงาน Shanghai Auto Show 2023
ขณะที่ โอกาสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ยังมีเจ้าตลาดน้อยและยังมีช่องว่างในการแข่งขัน แม้ว่าในอนาคตอันใกล้จะมีแบรนด์สัญชาติจีนเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอีก 2-3 แบรนด์ แต่บริษัทยังมั่นใจว่าการวางตำแหน่งราคาที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์จะสามารถแข่งขันได้ในตลาด
ด้านรูปแบบการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย บริษัทยืนยันว่า จะไม่มีการตั้ง Distributor หรือ Mega Dealer ใด ๆ แต่จะเป็นรูปแบบการแต่งตั้ง ผู้แทนจำหน่าย (Dealer) โดยบริษัทเอง คาดว่าจะมีโชว์รูมจำนวน 30 แห่ง ในช่วงแรก
นาย ชี่ เจี๋ย กล่าวว่า แม้ว่าเราจำมีทิศทางในการดำเนินธุรกิจในภาพใหญ่ในการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวา แต่ในรายละเอียดช่วงระยะที่ 2 ที่จะลงทุนเองขณะนี้ยังไม่มีการคอนเฟิร์ม เช่นเดียวกับการหาพาร์ทเนอร์แบตเตอรี่ในประเทศที่ยังไม่มีการคอนเฟิร์ม โดยในช่วงสัปดาห์นี้จะมีการพูดคุยกับ ปตท. ซึ่งยังไม่มีการคอนเฟิร์มเช่นเดียวกับการตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในประเทศไทยว่าจะมีการลงทุนหรือไม่ ต้องรอความชัดเจออีกครั้ง
JAECOO 7 PHEVJAECOO 8 PHEV