แนะสารพัดวิธีดูแลตนเอง ให้ห่างไกล "โรคกระเพาะอักเสบ"
โรคกระเพาะอักเสบเป็นโรคที่สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยไม่น้อย ดังนั้นการดูแลตนเองให้ไกลโรคย่อมดีที่สุด
โรคกระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคกระเพาะเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบหรือเกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร สามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในระยะเวลาอันรวดเร็ว เป็นระยะสั้นๆ และหายภายในเวลา 1-2สัปดาห์ หรือมีอาการบ่อยครั้งเป็นระยะเวลานานจนเกิดอาการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดแผลและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้
"กินเผ็ด" ทีไรแสบท้องทันที อาการนี้มีโอกาสเป็นโรคอะไรบ้าง
ยิ่งเครียดยิ่งปวด รับมือ “โรคแผลในกระเพาะ” สุดทรมาน
สาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
1.การติดเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือเรียกสั้นๆ ว่า เอช ไพโร (H.Pylori) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารและน้ำดื่ม
2.การกินยาในกลุ่มต้านการอักเสบ หรือยาแก้ปวด (Non-Steroidal Anti-inflammatory Drugs หรือ NSAIDs)
3.การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ สุราต่างๆ
ไขข้อสงสัย กินเมล็ดผลไม้ทำให้เสี่ยง "ไส้ติ่งอักเสบ" จริงหรือไม่?
อาการของโรค
อาการที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ในบางรายอาจไม่พบอาการชัดเจน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์ จะมีอาการดังนี้
- อาการปวดท้อง
- รู้สึกไม่สบายช่องท้องส่วนบน
- อาการท้องเฟ้อ อิ่มง่าย
- จุกหน้าอก
- แน่นท้อง
- เรอบ่อย
- อาหารไม่ย่อย
- รู้สึกคลื่นไส้หลังการกินอาหาร
เช็กสัญญาณเตือนโรคร้าย อาการแบบนี้ควร "ส่องกล้อง" ก่อนโรคลุกลาม
วิธีการดูแลรักษาโรคกระเพาะอักเสบ
- หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ด เปรี้ยว รสจัด
- หลีกเลี่ยงอาหารมักดอง เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภทของทอด ของมัน เนื่องจากเป็นสารที่ย่อยยากกว่าสารชนิดอื่น
- ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม บุหรี่
- ไม่รับกินอาหารจนอิ่มเกินไป เพราะจะทำให้กระเพาะขยายตัวกระตุ้นให้เจ็บและปวดท้องมากขึ้น
- พยายามอย่าให้ท้องว่างเกิน 3 ชม. และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อไม่ให้กระเพาะอาหารทำงานหนักมากเกินไป
ปวดในช่องท้อง สัญญาณเตือน 9 โรคอันตราย อย่านิ่งนอนใจจนโรคลุกลาม
- หลีกเลี่ยงความเครียดและความวิตกกังวล
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ และปรึกษาแพทย์ทุกครั้งที่ใช้ยา
- กินอาหารให้ตรงเวลา
- กินอาหารที่อ่อน และย่อยง่าย
- กินยาอย่างต่อเนื่อง ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากถั่ว เนื่องจากก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะ
- งดสูบบุหรี่
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลตนเองให้ห่าไกลโรคเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด เพราะหากป่วยกว่าจะรักษาหายต้องเสียเวลา สุขภาพใจและเงินทองไปไม่น้อย
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลเปาโล รังสิต