- ผมร่วง เกิดจากกรรมพันธุ์จริงหรือ?
จริง! กรรมพันธุ์ หรือ พันธุกรรม คือสาเหตุอันดับ 1 ของผมร่วง รวมถึงเป็นไปได้ว่าปู่ ย่า ตา ยายอาจถ่ายทอดกรรมพันธุ์มายังรุ่นหลานได้ ทั้งนี้ ผมร่วงจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมถือว่าเป็นเรื่องซับซ้อนที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด
นอกจากนี้ สาเหตุของผมร่วงยังเกิดได้จากหลายปัจจัย อาทิ ความเครียด การติดเชื้อบนหนังศีรษะ เชื้อราบนหนังศีรษะ รังแค โรคไทรอยด์ โรคซิฟิลิส โรคมะเร็ง โรคเซ็บเดิร์ม แพ้ยา การทานยารักษาสิว เป็นต้น
"ผมร่วง - ผมบาง - ศีรษะล้าน" ดีขึ้นได้หากรักษาได้ตรงสาเหตุ
อย่าคิดว่าแค่ไม่สวยจนชะล่าใจ “เส้นเลือดขอด” โชคร้ายถึงขั้นเสียชีวิต
- ใช้สารเคมีย้อมผม ทำสีผม หรือจัดแต่งทรงผม ทำให้ผมร่วงได้จริงหรือ?
ไม่จริง! การใช้สารเคมีจัดแต่งทรงผมที่ได้รับมาตรฐาน อย. จะไม่ทำให้เกิดอาการผมร่วง หรือมีอาการผมร่วงน้อยมาก ในทางกลับกันถ้าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านอย. หรือใช้สารเคมีย้อมผม กัดสีในปริมาณมาก อาจทำให้เส้นผมอ่อนแอ และขาดได้ง่าย
- สวมหมวกตลอดเวลา ทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
ไม่จริง! เราอาจคุ้นเคยกับภาพคนผมร่วงหรือศีรษะล้านที่มักสวมหมวกเป็นประจำ จริงๆ แล้วการสวมหมวกไม่มีส่วนทำให้ผมร่วง เว้นแต่ว่าจะสวมตลอดเวลาจนเกิดเชื้อรา นอกจากนี้ การถักเปียแน่นๆ หรือสวมวิกผมนานเกินไปก็ทำให้ผมขาดร่วงได้เช่นกัน
- หวีผมวันละ 100 ครั้ง ช่วยให้ผมสวยและแข็งแรงจริงหรือ?
ไม่จริง! เพราะกลับกันการหวีผม 100 ครั้งต่อวัน อาจทำให้ผมร่วง ผมแห้ง หรือผมแตกปลายได้ เพราะเส้นผมของเราจะถูกเสียดสีมากขึ้น เปรียบเหมือนการทำร้ายเส้นผมทางหนึ่ง การหวีผมที่ดีควรหวีอย่างเบามือ ไม่กระชากผม และค่อยๆ หวีจนทั่วศีรษะ
- สระผมบ่อยทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
ไม่จริง! โดยทั่วไปควรสระผมวันละ 1 ครั้ง บางคนเข้าใจว่า สระผมบ่อยๆ ทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ แต่ในความจริง มักทำให้หนังศีรษะแห้ง และเป็นสาเหตุของรังแค ส่วนคนที่ไม่กล้าสระผมเพราะกลัวผมร่วง หากไม่ได้สระผมนานเข้าอาจทำให้ผมร่วงถึง 200 เส้น มากกว่าค่าเฉลี่ยที่ 100 เส้นต่อวันได้ แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ชอบดึงผมตัวเอง ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมหรือไม่?
จริง! ให้ลองสังเกตว่าตัวเองชอบดึงผมซ้ำๆ หรือดึงผมตลอดวันหรือไม่ หากมีพฤติกรรมเหล่านี้ อาจทำให้เกิดผมร่วงเป็นหย่อมได้ คนที่ชอบดึงผมตัวเองเป็นประจำอาจเกิดจากภาวะความเครียดที่เพิ่มขึ้นจนกระทบจิตใจ และมีอาการทางจิตเวชโดยไม่รู้ตัว “โรคดึงผม” เป็นหนึ่งในอาการที่ต้องได้รับการรักษา มีทั้งแบบทำโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว เช่น วิตกกังวลประเภทย้ำคิดย้ำทำ หรือเป็นโรคซึมเศร้า
“โรคดึงผมตัวเอง” ป่วยจิตเวชแบบย้ำคิดย้ำทำ หายได้หากรู้ตัวทัน
- ยาคุมกำเนิดทำให้ผมร่วงได้จริงหรือ?
จริง! แต่ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดไม่ใช่สาเหตุหลัก ความจริงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินที่กระตุ้นให้ผมร่วง ทั้งนี้ความรุนแรงขึ้นอยู่กับยาคุมกำเนิดแต่ละยี่ห้อ หรือพบภาวะผมร่วงได้ในช่วงแรกที่มีการเปลี่ยนยี่ห้อ หากรู้สึกผมร่วงมากกว่าปกติ ให้หยุดใช้ยา 2-3 เดือน อาการผมร่วงจะดีขึ้น
- ผมร่วงเพราะขาดวิตามินจริงหรือ?
จริง! วิตามินหลักที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อเสริมสร้างเส้นผมให้แข็งแรงคือ Biotin หรือ วิตามิน H พบได้ในอาหารประเภทตับ ไข่แดง ถั่วเหลือง นม เนยถั่ว เป็นต้น ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามินก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่แข็งแรง ผมบาง สีผมเปลี่ยนไป และผมร่วงได้ง่าย ทั้งนี้ การทานวิตามินไม่ได้ช่วยสร้างเส้นผมได้ 100% แต่จะเน้นไปที่การบำรุงรากผมให้แข็งแรงขึ้นและบรรเทาอาการผมร่วง
- แชมพูที่ใช้มีผลต่อผมร่วงจริงหรือ?
จริง! การเลือกแชมพูให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของตัวเองมีส่วนสำคัญต่อการหลุดร่วงของเส้นผม ช่วงหน้าร้อนควรเลือกแชมพูลดความมัน หรือเลือกใช้แชมพูผสมยาฆ่าเชื้อรา สำหรับคนผมแห้ง ควรเลือกแชมพูที่เน้นเพิ่มความชุ่มชื้น แชมพูที่ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมมักเน้นการบำรุงเส้นผม ปรับสมดุลหนังศีรษะ เพื่อลดปัญหาผมร่วง การใช้แชมพูยาสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผม หากอาการดีขึ้นให้ค่อยๆ ลดความสม่ำเสมอในการใช้แชมพูยา และใช้ครีมนวดเน้นส่วนปลายผม
- ใช้หวีเลเซอร์ ช่วยให้ผมกลับมาดกดำเหมือนเดิมได้จริงหรือ?
จริง! Laser Comb หรือ หวีเลเซอร์ เป็นการรักษาผมร่วงผมบางด้วยเลเซอร์พลังงานต่ำ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ทำให้เกิดเส้นผมใหม่ ช่วยแก้ปัญหาอาการผมบาง ผมร่วงจากพันธุกรรมได้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดภัย และมักใช้ร่วมกับการรักษาด้วยยา โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อมูลสุขภาพจาก : โรงพยาบาลพญาไท
“คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” อันตรายจาก Blue Light ของพนักงานออฟฟิต
เช็ก 7 สาเหตุ “ผมร่วง” พฤติกรรมแบบไหนที่ควรทำเพื่อรักษาเส้นผม