“น้ำตาเทียม” ประโยชน์มากกว่าเพิ่มความชุ่มชื้นหากเลือกเหมาะกับตัวเอง
‘การหยอดน้ำตาเทียม’ กลายเป็นตัวช่วยหลักของคนหลายคนในปัจจุบันเนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และใช้สายตาหนักตลอดเวลา อาจมีอาการตาแห้งและไม่สบายตาสร้างความรำคาญและชีวิตสะดุด ซึ่งประโยชน์ของน้ำตาเทียมคือการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา แต่หากเราเลือกและรู้จักให้มากกว่านี้ น้ำตาเทียมจะมีประโยชน์ได้มากกว่านั้น
น้ำตาเทียม( Artificial Tears) ของเหลวที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น สามารถนำมาหล่อลื่นดวงตาที่อยู่ในภาวะตาแห้ง หรือใช้ทดแทนน้ำตาตามธรรมชาติได้ มีประโยชน์ช่วยบรรเทาการระคายเคืองดวงตา อาการตาแห้ง แสบตาให้ลดลง เพื่อถนอมสายตาเอาไว้ รวมไปจนถึงสามารถนำมาเป็นสารหล่อลื่นดวงตาในขณะใช้คอนแทคเลนส์ได้อีกด้วย
ประเภทของน้ำตาเทียม
น้ำตาเทียมส่วนใหญ่จัดเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือยาที่สามารถซื้อที่เคาน์เตอร์หรือร้านขายยาได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ โดยน้ำตาเทียมจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
“วิตามิน” กินมากไปเสี่ยงตับทำงานหนัก แนะปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน
สีของวัสดุอุดฟัน คุณสมบัติข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร ?
- น้ำตาเทียมแบบขวด หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า น้ำตาเทียมรายเดือน มีลักษณะเหลวใส ใช้งานได้ง่าย ราคาค่อนข้างถูกกว่าแบบหลอด หรือน้ำตาเทียมแบบรายวัน มีอายุการใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน หลังจากเปิดน้ำตาเทียม มีการใส่สารกันเสีย จึงทำให้อาจเกิดโอกาสแพ้ หรือระคายเคืองในผู้ใช้งานบางราย อีกทั้งยังต้องระมัดระวังเรื่องของการจัดเก็บและการใช้งาน
- น้ำตาเทียมแบบรายวัน เป็นน้ำตาเทียมไม่มีสารกันเสีย อายุการใช้งานอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดน้ำตาเทียมเท่านั้น ทำให้โอกาสในการติดเชื้อหรือปนเปื้อนจากภายนอกลดลง อีกทั้งยังสามารถพกพาได้สะดวก ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณรู้สึกสบายดวงตาหลังการใช้งาน แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่าน้ำตาเทียมแบบขวด เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้หรือระคายเคืองต่อสารกันเสียในน้ำตาเทียม คนที่จำเป็นต้องหยอดตาบ่อยครั้งติดต่อกัน และคนที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ
- น้ำตาเทียมแบบเจล หรือแบบขี้ผึ้งป้ายดวงตา เป็นน้ำตาเทียมที่ไม่ต้องใช้งานบ่อย เนื่องจากมีความหนืดค่อนข้างมากกว่าตัวอื่นๆ ทำให้รักษาความชุ่มชื้นได้นานยิ่งกว่า อย่างไรก็ตาม ควรทำตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา และระมัดระวังเรื่องของการจัดเก็บ เพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในดวงตา
น้ำตาเทียม ช่วยโรคอะไรเกี่ยวกับดวงตาได้บ้าง
โรคตาแห้ง เป็นภาวะที่พบได้ประมาณ 5-50% ของประชากรทั่วไป โดยขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และเชื้อชาติ อีกทั้งยังเป็นโรคที่เกิดจากการเสียสมดุลของน้ำตาร่วมกับอาการทางตา ซึ่งได้แก่น้ำตาไม่เสถียรและมีความข้น ผิวหน้าลูกตาอักเสบและถูกทำลาย หรือ เกิดความผิดปกติของระบบประสาทรับสัมผัส ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคตาแห้ง ที่เป็นสาเหตุของความไม่สบายตา ความล้า การมองเห็นผิดปกติไป จึงมีผลต่อคุณภาพชีวิตเป็นอย่างมาก จากการรักษาโรคตาแห้งที่มีในปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีใดที่สามารถทำให้กระบวนการสร้างน้ำตาธรรมชาติกลับสู่สภาวะปกติได้ น้ำตาเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
กระจกตาถลอกและแผลที่กระจกตา เกิดจากสิ่งแปลกปลอม การได้รับบาดเจ็บ สารเคมี ขนตาทิ่มตา ทำให้เกิดอาการปวดตา ตาแดง น้ำตาไหลและแพ้แสง
- น้ำตาเทียมจะช่วยในการสมานผิวชั้นนอกของลูกตา
- น้ำตาเทียมชนิดไม่มีสารกันเสียจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า และผู้ป่วยสามารถทนต่อการหยอดได้มากกว่า
- น้ำตาเทียมส่วนมาก มีส่วนประกอบของสารไฮโดรเจล ซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบ พองตัวได้และไม่ละลายในน้ำ ช่วยกระตุ้นและเสริมให้เกิดการสมานของแผลที่ผิวกระจกตา
อาการปวดและการอักเสบ
การหยอดน้ำตาเทียมร่วมกับการประคบเย็น จะช่วยลดการอักเสบของชั้นที่อยู่ระหว่างเยื่อตา และตาขาว หลังผ่าตัดกระจกตา เช่น การผ่าตัดตาด้วยเลเซอร์ การหยอดน้ำตาเทียมชนิดไม่มีสารกันเสียจะช่วยลดอาการไม่สบายตาหลังการผ่าตัด และทำให้การฟื้นตัวของการมองเห็นหลังผ่าตัดเร็วขึ้น นอกจากนี้ น้ำตาเทียมแช่เย็นยังช่วยลดการรับสัมผัสของกระจกตาและเยื่อตา โดยอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ถือเป็นอุณหภูมิที่สบายตาที่สุด อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยบางราย น้ำตาเทียมอาจไม่ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายตา
เยื่อตาอักเสบ
- เยื่อตาอักเสบจากภูมิแพ้ที่ตา ทำให้เกิดอาการคัน ขี้ตาเป็นน้ำคล้ายน้ำตา เปลือกตาและเยื่อตาบวม น้ำตาเทียมและการประคบเย็นจะช่วยลดอาการดังกล่าว ถ้าไม่ดีขึ้น ควรพิจารณาใช้ยากลุ่มอื่นรักษาเพิ่มเติม
- เยื่อตาอักเสบจากเชื้อไวรัส (ที่ไม่ได้เกิดจากโรคเริม) ทำให้เกิดอาการตาแดง ไม่สบายตาและน้ำตาไหล พบว่าน้ำตาเทียมช่วยลดอาการได้ดีไม่ต่างจากยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ และยาหยอดตาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDS
- เยื่อตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการตาแดง ไม่สบายตา และขี้ตาเหนียว รวมถึงมีสะเก็ดผิวหนังที่เปลือกตา โดยมากจะหายเองได้ การใช้น้ำตาเทียมจะทำให้สบายตาและช่วยทำความสะอาดดวงตา หากผ่านไป 3-4 วันแล้วแต่อาการยังคงอยู่ ควรใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะรักษาเพิ่มเติม
กระจกตาอักเสบ
การอักเสบของกระจกตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคเริม เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา คอนแทคเลนส์ แสงยูวี ในโรคตาแห้ง และกระจกตาอักเสบจากแสงยูวี แนะนำใช้น้ำตาเทียมอย่างเดียวได้ ส่วนกระตกอักเสบจากสาเหตุอื่นๆ ควรใช้ร่วมกับการรักษาเฉพาะตามสาเหตุที่ทำให้เกิด
นอกจากความผิดปกติของดวงตาแล้ว น้ำตาเทียมยังช่วยปัญหาต่างๆได้อีกด้วย อาทิ
- ช่วยให้คอนแทคเลนส์เปียกและถอดง่ายขึ้น ช่วยหล่อลื่นดวงตาจะทำให้สบายตา และคอนแทคเลนส์ชุ่มชื้นระหว่างสวมใส่
- เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากดวงตา และใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสมานผิวชั้นนอกของลูกตาหรือกระจกตา
จะเกิดอะไรขึ้น ? เมื่อกินยาเม็ดไม่กลืนน้ำตาม อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย
วิธีการเลือกซื้อน้ำตาเทียม
ปัจจุบันมีน้ำตาเทียมอยู่หลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ ซึ่งการเลือกซื้อน้ำตาเทียมที่ดีที่สุดจะต้องพิจารณาหลายๆปัจจัย เพื่อให้รูปแบบที่ได้มีความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน โดยสิ่งที่จะต้องพิจารณา มีดังนี้
- ไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมของแต่ละคน
น้ำตาเทียมแต่ละรูปแบบ เหมาะกับลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน อย่างน้ำตาเทียมแบบขวด หรือน้ำตาเทียมแบบหลอด จะมีลักษณะเป็นสีใส ความหนืดน้อย ใช้แล้วสบายตา ไม่เหนอะหนะ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ มีเวลาหยอดตาในระหว่างวัน เพราะรูปแบบนี้จำเป็นต้องหยอดตาบ่อยๆ ส่วนคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหยอดตาในระหว่างวัน หรือคนที่ต้องทำงานเร่งรีบทั้งวัน อาจเหมาะกับน้ำตาเทียมแบบเจล หรือแบบขี้ผึ้งป้าย เพราะสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ยาวนาน สะดวกสบาย เพียงแค่ทาในตอนเช้า หรือทาก่อนนอนเท่านั้น
- อุปกรณ์เสริม
บางคนอาจมีการใส่อุปกรณ์เสริม อย่างเช่น คอนแทคเลนส์ แทนการใส่แว่นสายตา ดังนั้น น้ำตาเทียมที่ใช้ จะต้องเป็นน้ำตาเทียมคอนแทคเลนส์เท่านั้น หรือหากต้องการใช้น้ำตาเทียมหยอดตอนใส่คอนแทคเลนส์แต่ไม่มีน้ำตาเทียมคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ สามารถใช้เป็นน้ำตาเทียมไม่มีสารกันบูดแทนได้
ทั้งนี้ ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมที่มีส่วนผสมของสารกันบูด หรือสารกันเสียหยอดตอนใส่คอนแทคเลนส์โดยตรง เพราะจะทำให้คอนแทคเลนส์เกิดการเปลี่ยนแปลงไป อาจส่งผลต่อสีและประสิทธิภาพของเลนส์ได้ จึงแนะนำว่าควรใช้น้ำตาเทียมสำหรับคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะจึงจะดีกว่า
ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม
- ใช้น้ำตาเทียมตามคำแนะนำของแต่ละรูปแบบ เช่น น้ำตาเทียมแบบรายวัน ต้องใช้ไม่เกิน 12-24 ชั่วโมง หลังจากเปิด หรือน้ำตาเทียมแบบรายเดือน ใช้ได้ไม่เกิน 1 เดือน หลังจากเปิดแล้ว เป็นต้น
- ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมร่วมกันกับคนอื่นๆ เพราะอาจเกิดการติดเชื้อดวงตาได้
- กรณีที่ต้องใช้น้ำตาเทียมและยาหยอดดวงตาเพิ่มเติม ควรใช้งานห่างกันประมาณ 10 นาที จึงจะดีที่สุด
- หากเป็นคนที่ใช้งานน้ำตาเทียมเป็นระยะเวลานาน มีการใช้งานบ่อยๆ หรือคนที่ชอบใส่คอนแทคเลนส์ ควรเลือกน้ำตาเทียม หรือน้ำตาเทียมสำหรับคอนแทคเลนส์ที่ไม่ผสมสารกันเสีย
- วิธีหยอดน้ำตาเทียม จะต้องระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสบริเวณดวงตา หรือขนตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อจนดวงตาอักเสบ
สังเกตตนเองอยู่เป็นระยะ หากมีอาการผิดปกติ เช่น เกิดการระคายเคือง มีภาวะตาแห้งมากขึ้น แนะนำว่า ควรเข้าพบจักษุแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุและรักษาเป็นลำดับถัดไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไทและโรงพยาบาลสมิติเวช
แดดร้อนจัดทำลายดวงตา เสี่ยงกระจกตาเสื่อม-ริ้วรอยร่องลึก แนะวิธีถนอมสายตา
ตาใสปิ๊ง! ด้วยอาหารบำรุงดวงตาจากธรรมชาติ ป้องกัน-ชะลอปัญหาด้านสายตา