ป่วยไม่รู้ตัว! โรคแพนิค "ออม สุชาร์" เผยโหมงานหนักจนเป็นปัญหาสุขภาพ

“ออม - สุชาร์ มานะยิ่ง” นักแสดงสาวขวัญใจแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศที่มีผลงานการแสดงมาแล้วมากมาย แม้เธอจะดูร่าเริงสดใน แต่ล่าสุดได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ป่วยเป็นโรคแพนิคโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเริ่มมีอาการเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในรายการ “Rise & Shine ชีวิตดีเริ่มที่ตัวเรา ซีซัน 3”

ตอนที่ถ่ายซีรีส์ที่เมืองจีน เป็นก๊อกสุดท้ายก่อนที่ร่างกายจะบอกให้เราพัก หลังจากถ่ายเสร็จปุ๊ป เราก็ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นต่อ ตลอดทั้งทริปเป็นลมชั่วโมงต่อชั่วโมง รู้สึกเลยว่าร่างกายผิดปกติแน่ๆ ฉันจะตายแล้ว

“ออม สุชาร์” เผยประสบการณ์ป่วยแพนิค โหมงานหนักจนเป็นโรค

“แพนิค” ไม่ใช่แค่ตกใจ แต่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติแนะวิธีบรรเทา

สัญญาณโรคแพนิค เกิดจากอะไร? วิธีรักษาและดูแลตัวเองเบื้องต้น

กลับมาที่เมืองไทยก็เป็นอีก รู้สึกว่าหายใจไม่ออกจะตายแล้ว แต่หมอบอกว่าออกซิเจนเราเต็มเลย ออมไม่ได้เป็นอะไรนะ ออมก็บอกว่าจะรู้ได้ยังไง ออมรู้ตัวเอง

ตอนนั้น “แอมป์ – พิธาน องค์โฆษิต” แฟนหนุ่มรู้สึกตงิดใจ เลยค้นหาข้อมูลจากต่างประเทศให้ ซึ่งตอนนั้นข้อมูลในเมืองไทยยังมีน้อย เขาบอกว่าเราอาจจะเป็นโรคแพนิค ครั้งแรกที่ได้ยินก็ไม่รู้จัก ไปปรึกษาแพทย์อีกครั้งก็เคลียร์เลยว่าตัวเองเป็นแน่นอน เพราะอาการที่คุณหมอบอกนั้นตรงทุกข้อ รู้สึกตัวเองจะตายแล้วหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม โรคนี้คืออะไร มีอาการแบบไหน และสาเหตุเกิดจากอะไร แพทย์หญิงอรไพลิน รัตนปิ่นศิริ จิตแพทย์ประจำศูนย์ Let’s Talk โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ออกมาอธิบายให้เราเข้าใจกันดังนี้

แพนิคคืออะไร

โรคแพนิค (Panic Disorder) เป็นโรคที่ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกังวล หรือกลัวเกิดขึ้นอย่างรุนแรงและฉับพลัน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ไม่กี่นาทีจนไปถึง 30 นาที และมักเกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ จนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

สัญญาณเตือนโรค

อาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคแพนิคจะมีอาการใจสั่น เจ็บแน่นหน้าอก หายใจได้ไม่อิ่ม ชาตามปลายมือ ปลายเท้า ร้อนวูบวาบ วิงเวียนศีรษะคล้ายเป็นลม หรือท้องไส้ปั่นป่วน ถ้าหากมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้อย่างน้อย 4 ใน 13 รายการ

ร่วมกับอาการกังวลที่จะกลัวตาย หรือเมื่อมีอาการจะเกิดความรู้สึกกลัวที่จะตาย กลัวเป็นโรคร้ายแรง กลัวจะเป็นบ้า หรือกลัวที่จะควบคุมอาการไม่ได้ นั่นหมายความว่าคุณอาจจะเป็นโรคแพนิคแล้ว

สาเหตุของอาการป่วย

สาเหตุของโรคแพนิค แบ่งออกเป็นสาเหตุทางกายและจิตใจ

1.) สาเหตุทางกาย อย่างแรกเลยคือ “พันธุกรรม” ถ้าในคนใกล้ชิดเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรคกังวล หรือแพนิคด้วยแล้ว คุณก็อาจจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่า

อย่างที่สอง “เกิดจากสารเคมีในสมองไม่สมดุล” ทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ

2.) สาเหตุด้านจิตใจ อาจเกิดภาวะความเครียด ความกังวล พักผ่อนน้อย หรือมีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างชัดเจน อาทิ การเกิดความสูญเสีย หรือผิดหวังอย่างรุนแรง เป็นต้น

การรักษา

อย่างแรกจะต้องให้ผู้ป่วยฝึกหายใจก่อน คือหายใจเข้าท้องจะป่อง แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ถ้ายังไม่สามารถควบคุมการหายใจได้ แพทย์จะเริ่มให้ยารักษา

โดยยาจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม "ยากลุ่มออกฤทธิ์เร็ว" จะให้ใช้แค่ช่วงแรก สั้นๆ เพื่อควบคุมอาการ อาจมีผลข้างเคียง คือ ง่วงนอนวิงเวียนศีรษะ และมีอาการซึมๆ ได้

และอีกกลุ่ม คือ "ยาที่ช่วยปรับสารเคมีในสมอง" ยากลุมนี้จะใช้เวลาออกฤทธิ์นานกว่ากลุ่มแรก ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยแพทย์จะให้กินต่อเนื่องยาวประมาณ 6 เดือน อาจมีผลข้างเคียงคือ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ตาพล่า หรือมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้

อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยกังวลเรื่องผลข้างเคียง สามารถบอกแพทย์ผู้รักษาให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้

การป้องกัน

สำหรับวิธีการป้องกัน แพทย์จะฝึกให้เรียนรู้ที่จะยอมรับ และจัดการอารมณ์ตัวเอง ฝึกการผ่อนคลาย รวมถึงการได้ระบายความเครียด ความรู้สึกด้านลบกับบุคคลที่ไว้ใจได้ เช่น เพื่อน บุคคลในครอบครัว สิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันโรคได้ในระยะยาว

สำหรับใครหากเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถแบกรับ หรือควบคุมอาการที่เกิดขึ้นได้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงที

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล

ขอบคุณภาพจาก : Rise & Shine ชีวิตดีเริ่มที่ตัวเรา ซีซัน 3