ข้อเท็จจริง! กินเปลือกมะนาว-ไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย ก่อมะเร็งจริงหรือไม่?
ปัจจุบันมีการส่งต่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียอย่างหลากหลายผิดบ้างถูกบ้างโดยเฉพาะข้อมูลโรคมะเร็ง เช็กความเชื่อแบบผิดๆ ที่หลายคนหลงเชื่อ ทำให้ขาดโอกาสในการดูแลตัวเองแบบถูกวิธี!
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เผย โรคมะเร็ง เป็นโรคร้ายที่ไม่ว่าใครก็เป็นได้ และส่วนมากส่งต่อมาจากพันธุกรรมหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบผิดๆ แน่นอนว่า เป็นโรคร้ายที่มีโอกาสรักษาและรอดชีวิตได้น้อย จึงมีมีข่าวแชร์จากความเชื่อผิด ๆ ที่อ้างว่าเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเชื่อหรือยังคงคิดแบบนี้อยู่
6 ความเชื่อผิดๆ ก่อมะเร็ง
- สาร SLS ในสบู่เหลว ทำให้เกิดมะเร็ง?
จากกรแสข่าวที่แพร่หลายในออนไลน์ว่า สาร SLS (Sodium lauryl sulfate)
ผู้หญิงเสี่ยงมะเร็งมากกว่าผู้ชาย? เช็กสัญญาณร่างกายเปลี่ยนต้องระวัง!
วิธีออกกำลังกายต้านมะเร็ง เริ่มที่ใจ จบที่สุขภาพแข็งแรง!

ซึ่งเป็นสารลดแรงตึงผิวในสบู่เหลวนั้นก่อให้เกิดมะเร็งนั้น ทางการแพทย์ได้ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการที่สาร SLS จะก่อให้เกิดมะเร็งได้นั้นจะต้องมีการทำปฏิกิริยาทางเคมีที่อุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิที่ทำให้น้ำเดือดได้เลย ซึ่งคนปกติทั่วไปก็คงไม่มีใครอาบน้ำเดือดกันอยู่แล้ว ดังนั้น ใช้สบู่เหลวแม้จะมีสาร SLS อยู่ ก็ไม่ทำให้เกิดมะเร็งแน่นอน
- ดื่มนมวัว ทำให้เป็นมะเร็ง?
ปัจจุบันไม่มีหลักฐานยืนยันว่า นมวัวจะก่อมะเร็งได้ ทั้งนี้ในทางกลับกันนมวัวเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญอุดมไปด้วยแคลเซียมและโปรตีน เป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะแคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- ดื่มน้ำเย็น หลังกินข้าว ทำให้เป็นมะเร็งจริง?
หลายคนเชื่อว่า “น้ำเย็น” ทำให้ไขมันที่กินไปแข็งตัวไปเกาะที่ผนังลำไส้และทำให้เกิดมะเร็งนั้น จากการสืบค้นข้อมูลยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่า น้ำเย็นทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ เพราะฉะนั้นสามารถดื่มได้ตามปกติ แต่ถ้าจะหลีกเลี่ยงโรคมะเร็ง ควรเลี่ยงอาหารจำพวกอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม อาหารสุกๆ ดิบๆอาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำ ๆ จะดีกว่า
- ค่อยเปลี่ยนผ้าอนามัย เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก?
ความเชื่อนี้ทำให้คุณสาว ๆ ต่างหวั่นวิตก เพราะบางคนเชื่อว่าเลือดประจำเดือนเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรียและยังเพิ่มโอกาสให้เป็นมะเร็งปากมดลูกอีก แต่หน่วยงานได้มีการตรวจสอบแล้วว่า “ไม่เป็นความจริง” เพราะสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกนั้น เกิดจากการติดเชื้อ HPV (Human papilloma virus) โดยส่วนใหญ่ติดจากการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสผิวหรือเยื่อบุของอวัยวะเพศหรือปากมดลูกมีรอยถลอกหรือแผลทำให้เชื้อเข้าไปได้ หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น มีคู่นอนหลายคน มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับผ้าอนามัย
- ส้มตำ ใส่เปลือกมะนาว ทำให้เป็นมะเร็ง ?
ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถยืนยันได้ ในทางกลับกันเปลือกมะนาวมีประโยชน์ด้วยซ้ำ เพราะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท่อง แก้ล้ม วิงเวียน และช่วยให้เจริญอาหารได้อีกด้วย
4 กุมภาพันธ์ วันมะเร็งโลก เช็กสัญญาณโรคร้ายคร่าชีวิตอันดับ 1 ของโลก!
- ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่วางตากแดดไว้เป็นเวลานาน ทำให้เกิดเป็นมะเร็ง?
การแชร์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ว่าห้ามดื่มน้ำจากขวดน้ำดื่มพลาสติกที่เก็บในรถยนต์ที่จอดตากแดด หรือที่ถูกวางตากแดดไว้เป็นระยะเวลานาน เพราะความร้อนจะทำให้สารเคมีอันตรายที่อยู่ในขวดพลาสติก เช่น สารไดออกซิน (Dioxin) สารบีสฟีนอลเอ (Bisphenol A หรือ BPA) และสารทาเลต (Phthalate) ละลายออกมาปนเปื้อนในน้ำดื่มเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ส่งผลต่อความผิดปกติของพันธุกรรม ทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็งได้นั้น
จากการตรวจสอบการผลิตขวดน้ำดื่มพลาสติกทั้งชนิดพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene terephthalate; PET) พอลิพรอพิลีน (Polypropylene; PP) และพอลิคาร์บอเนต (Polycarbonate; PC) ไม่ได้มีการใช้สารไดออกซินและสารทาเลต ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสปนเปื้อนสารพิษเหล่านี้ สำหรับสารบีสฟีนอลเอ ถึงแม้ว่าจะมีการใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตพลาสติกชนิดพอลิคาร์บอเนต (polycarbonate; PC) แต่ อย. มีการกำหนดคุณภาพมาตรฐานของภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากพลาสติกชนิดต่าง ๆ ไว้แล้ว ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 435) พ.ศ. 2565 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติก ที่จำเป็นต้องตรวจวิเคราะห์ด้านความปลอดภัย เช่น ไม่มีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ไม่มีสีออกมาปนเปื้อนกับอาหาร ควบคุมปริมาณการแพร่กระจายของโลหะหนัก ควบคุมปริมาณการแพร่กระจายของสารตั้งต้นและสารที่ใช้ในการผลิตพลาสติก เป็นต้น ซึ่งผู้ผลิตน้ำบริโภคบรรจุขวด ต้องใช้ภาชนะบรรจุที่มีคุณภาพหรือมาตรฐานเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
อีกทั้ง ปัจจุบันยังไม่มีรายงานการตรวจพบสารไดออกซินในพลาสติก และยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนว่าในที่อุณหภูมิสูงนั้นสารเคมีต่าง ๆ ที่ละลายออกมาจากขวดพลาสติกจะทำปฏิกิริยาจนเกิดเป็นสารไดออกซินได้ ที่ผ่านมาพบเพียงบางงานวิจัยเท่านั้นที่พบว่าขวดน้ำดื่มพลาสติกที่ตั้งไว้ในที่อุณหภูมิสูงเกิน 60 องศาเซลเซียส นานเป็นเวลาเกิน 11 เดือน จะทำให้สารทาเลต ละลายออกมาเกินมาตรฐานที่อียู(EU) กำหนดไว้
สรุปดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่วางตากแดดไว้เป็นเวลานาน ทำให้เกิดเป็นมะเร็ง ไม่เป็นความจริง
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
มะเร็งชนิดไหนลุกลามมาที่กระดูกได้? เสี่ยงแตกหักง่ายภาวะกดทับไขสันหลัง
เทคนิคป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหารและวิธีสังเกตปวดแสบท้องแบบไหนควรระวัง!