ต่อมน้ำเหลืองโต อาการแบบไหนรีบพบแพทย์? อาจเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ต่อมน้ำเหลือง (Lymph Nodes) คือ อวัยวะหนึ่งในระบบน้ำเหลือง (หรือระบบภูมิคุ้มกัน) มีหน้าที่ต่อสู้ทำลายเชื้อโรค โดยดักจับไวรัส แบคทีเรีย และเหตุอื่นที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วย อาการต่อมน้ำเหลืองโต (Lymphadenopathy) สามารถพบเป็นปกติโดยเฉพาะในเด็ก เช่น ต่อมน้ำเหลืองใต้ขากรรไกรโต เป็นต้น ส่วนใหญ่พบร่วมกับการอักเสบของจมูก คอ ไซนัส หรือกล่องเสียง หรือไม่ทราบสาเหตุ

งานวิจัยระบุว่า มีเพียง 16% เท่านั้นที่เป็นมะเร็ง

“ตับอักเสบบี” อันตรายจากเพศสัมพันธ์อันตราย เสี่ยงมะเร็งตับลุกลาม!

อย.ยัน “ยาย้อมผม” ในไทยปลอดภัย ย้ำย้อมบ่อยกระทบตับ-ไตไม่มีวิจัยชี้ชัด!

โรคที่ทำให้เกิดต่อมน้ำเหลืองโต

• โรคติดเชื้อ เช่น ไวรัส (HIV, EBV, CMV, หัด หรือหัดเยอรมัน), แบคทีเรีย (โดยเฉพาะ Staphylococci, วัณโรค Tuberculosis และเชื้อ Mycobacteria อื่น, ริกเกตเซียจากเห็บไรกัด), ราและพยาธิ (Toxoplasmosis)
• การตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (SLE, รูมาตอยด์), แพ้ยา (ยากันชัก Phenytoin), โรค Histiocytosis X และโรค Castleman
• เซลล์ไขมันหรือ Glycoprotein – Laden Macrophage (Monocyte) เช่น โรค Lipid Storage (Gaucher Disease)
• โรคมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Non – Hodgkin หรือ Hodgkin lymphoma), มะเร็งเม็ดเลือดขาว, การแพร่กระจายของมะเร็งอื่น และอื่น ๆ เช่น Sarcoidosis

วิจัยเผยยิ่งอายุมากขึ้นการนอนหลับยิ่งสั้นลง ปัญหาใหญ่ของผู้สูงอายุ

ต่อมน้ำเหลืองโตแบบไหนที่ควรพบแพทย์

• ก้อนต่อมน้ำเหลืองใหญ่กว่า 2 เซนติเมตร
• ต่อมน้ำเหลืองเหนือไหปลาร้าโตหรือโตหลายตำแหน่ง
• ต่อมน้ำเหลืองโตเร็วหรือไม่ยุบหลัง 1 เดือน
• ต่อมน้ำเหลืองแข็งและไม่ขยับ
• มีไข้หลายวัน เหงื่อออกตอนกลางคืน
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบเหตุ

ต่อมน้ำเหลืองโตเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การรักษาจะอิงตามการตรวจวินิจฉัยโรค สิ่งสำคัญคือ หากไม่มั่นใจสาเหตุของต่อมน้ำเหลืองโตควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ

กทม.รับมือฝุ่น PM2.5 เชิงรุกเปิดคลินิกมลพิษทางอากาศเพิ่ม 8 แห่ง

เปลี่ยนคู่นอนบ่อย-ไม่ป้องกัน เสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อะไรบ้าง?