หกล้มใน “ผู้สูงอายุ” ไม่ใช่เรื่องเล็ก อาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้
ผู้สูงอายุ กับปัญหาการหกล้ม เป็นปัญหาที่น่ากังวล เพราะความเสื่อมสภาพของร่างกายอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ แนะเทคนิคลดอัตราการลื่นล้ม!
การเกิดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุมักมีสาเหตุจากความเสื่อมและการถดถอยของร่างกาย อีกทั้งจากโรคภัยไข้เจ็บเป็นผลให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ลดลง ซึ่งมักเกิดกับผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 65 – 75 ปี และเนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน เมื่อหกล้มกระดูกจึงเกิดการแตกหรือหักได้ง่ายจากข้อมูลพบว่า
- ในแต่ละปี 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุมักลื่นล้มและครึ่งหนึ่งลื่นล้มมากกว่า 1 ครั้ง
- ร้อยละ 10 ของการลื่นล้ม ทำให้กระดูกสะโพกหัก
- ร้อยละ 25 ของการบาดเจ็บกระดูกสะโพกเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต
หลักการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ให้อายุยืน สุขภาพกายและใจแข็งแรง
ท่าออกกำลังกายผู้สูงอายุ ชะลอวัยเพิ่มความแข็งแรงกระดูก ป้องกันการหกล้ม

- การลื่นล้มมักเกิดขึ้นในที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในห้องน้ำและบันได
- ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยที่กระดูกหักในครั้งแรกไม่เคยตรวจหรือรักษาโรคกระดูกพรุนเลย
- ผู้สูงอายุที่เคยหกล้มในครั้งแรกแล้ว มีแนวโน้มที่จะหกล้มเพิ่มขึ้น 2 – 3 เท่า
มีผู้ป่วยกระดูกหักจากการลื่นล้มที่บ้านเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มีโรคประจำตัว ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเส้นเลือดสูง โรคหัวใจ บางรายมีไตวายเรื้อรัง ดังนั้นจึงทำให้การดูแลรักษาซับซ้อนมากขึ้น ทำให้สมาชิกในบ้านต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และขณะอยู่ในโรงพยาบาลก็เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลกดทับ ปอดบวม ติดเชื้อในระบบต่าง ๆ เป็นต้น
สาเหตุการลื่นล้มของผู้สูงวัย
-
ปัญหาทางกาย ได้แก่ การทรงตัวไม่ดี ขาอ่อนแรง ชา อ่อนเพลีย หน้ามืด มีปัญหาด้านสายตาและการได้ยิน การรับยาที่มีผลต่อระบบการไหลเวียนโลหิต ฯลฯ
-
สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม ได้แก่ พื้นลื่น เปียก มีหยดน้ำ พื้นผิวขรุขระ มีขั้นสูงต่ำ ขอบไม่เรียบ แสงสว่างไม่เพียงพอ อุปกรณ์ของใช้ไม่มั่นคงชำรุด ใช้อุปกรณ์ช่วยเดินไม่เหมาะสม สวมใส่เสื้อผ้า รองเท้าไม่พอดี ฯลฯ
เทคนิคดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าร้อน อะไรควรทำ ? อะไรควรเลี่ยง
เทคนิคป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม
-
เพิ่มแรงเสียดทานให้พื้น ติดแผ่นกันลื่น ใช้วัสดุไม้สังเคราะห์ หรือถ้าเป็นกระเบื้องในห้องน้ำควรใช้กระเบื้องแผ่นเล็ก มีผิวด้านหรือผิวสัมผัสเป็นลวดลาย
-
ทางลาดสำหรับวีลแชร์ เพื่อผ่อนแรงผู้ป่วยพักฟื้นที่ใช้วีลแชร์ ควรทำทางลาดไว้ตามทางลงบันใดต่าง ๆ ให้มีความชันไม่เกิน 5 องศา กว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร ทางลาดยาวไม่เกิน 6 เมตร
-
ขนาดเตียงที่เหมาะสม เลือกเตียงให้มีทางยาวไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร สูงประมาณ 40 เซนติเมตร (สำหรับการใช้รถเข็น) หรือสูงจากพื้นถึงข้อพับเข่า โดยให้รอบเตียง3 ด้านมีพื้นที่ว่างอย่างน้อยด้านละ 90 เซนติเมตร
-
เปลี่ยนประตูให้เปิดง่าย เปลี่ยนจากลูกบิดแบบหมุนมาเป็นคันโยกเพื่อทุ่นแรง ประตูต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร หรือมีความกว้างมากกว่าความกว้างของวีลแชร์ หรือจะเปลี่ยนเป็นประตูบานเลื่อนแบบไม่มีธรณีประตูก็ได้เช่นกัน
-
ราวจับกระชับทุกก้าว ติดตั้งราวจับลักษณะสั้น – ยาว หรือตัวแอล – ตัววี ที่เหมาะกับการใช้งานไว้ตามจุดต่าง ๆ เช่น บันได ห้องน้ำ ผนังทางเดิน เป็นต้น โดยติดตั้งไว้สูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 80 – 100 เซนติเมตร
-
เพิ่งแสงไฟส่องสว่าง เลือกใช้แสงแบบ Day Light สวิตช์ไฟควรมีขนาด 5 – 7.5 เซนติเมตร ให้อยู่ในระยะเอื้อมถึงสะดวก สูงจากพื้นอย่างน้อย 45 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 90 เซนติเมตร
-
ฟังก์ชันเพื่อผู้สูงวัย ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในบ้านควรจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น ราวแขวนผ้าที่ปรับระดับสูงต่ำได้ ไม่ต้องเอื้อม พร้อม ติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น สวิตซ์ดึงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในห้องน้ำหรือที่หัวเตียง เป็นต้น
ดูแลสุขภาพผู้สูงวัย
-
รับประทานอาหารให้เพียงพอ เน้นผักและผลไม้ เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและต้านทานโรค
-
ไม่ควรงดอาหาร ทำให้อ่อนเพลีย มึนงง
-
เคลื่อนไหวทุกวัน เดินหรือออกกำลังกายตามวัย
ทั้งนี้หากผู้สูงอายุต้องรับประทานยา ควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชทุกครั้งที่รับยาถึงผลข้างเคียงของยา ได้แก่ ยาที่ทำให้ง่วงซึม ยากล่อมประสาท ยาลดความดันโลหิต และยาขับปัสสาวะ หรือมีประวัติการใช้ยาเป็นประจำตั้งแต่ 4 ชนิดขึ้นไป (ไม่รวมวิตามิน) ถ้ารับยาที่มีผลทำให้ง่วงซึม หลับ ต้องปรับเปลี่ยนการทำกิจวัตรประจำวันเพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการลื่นล้ม ห้ามผสมยากับแอลกอฮอล์ ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เพราะเป็นสาเหตุของการลื่นล้ม ที่สำคัญต้องไม่อายที่จะใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน ตรวจสอบอุปกรณ์ช่วยเดินให้มีความสูงเหมาะสมและมั่นคงลดการหกล้มอันเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล
ผู้สูงอายุเสี่ยงภาวะขาดน้ำ รุนแรงเสี่ยงหัวใจล้มเหลวไตวายได้!
ข้อควรระวังเมื่อต้องดูแลผู้ป่วย “นอนติดเตียง” ป้องกันแผลกดทับ-สำลัก