ถอดบทเรียนเรื่องกิน “พีช อีท แหลก” สู่คัมภีร์ป้องกัน “โรคกินไม่หยุด”
ชวนรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ “โรคกินไม่หยุด” พร้อมคำเตือนเรื่องการกินที่ถอดบทเรียนมาจากสายแข็งกินจุ “พีช อีท แหลก”
ใครเคยสงสัยว่าอาการกินเยอะแบบไหนถึงจะเรียกว่าเป็น “โรคกินไม่หยุด” เพราะบ่อยครั้งเราก็กินเยอะ จนบางทียังคิดสะอีกว่ากินเก่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ
วันนี้เราเลยจะพามารู้ถึงเรื่องโรคกินไม่หยุดไปพร้อมกับยอดนักกินแนวหน้า เจ้าของยูทูบช่อง “PEACH EAT LAEK พีช อีท แหลก” ที่ขึ้นชื่อเรื่องการกินดุ กินจุ จนสามารถคว้าแชมป์การกินจากการแข่งขันมาแล้วหลายรายการ

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้วว่าการกินเยอะ ย่อมส่งผลต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเสี่ยงต่อโรคเบาหวานหรือความอ้วน แต่ที่จริงแล้วอาจมีอะไรแอบแฝงมากกว่านั้น งานนี้ “น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา” จึงดึง “หนุ่มพีช” มาเล่าประสบการณ์ทางสุขภาพ และร่วมไขข้อสงสัยทุกเรื่องของยอดนักกินไปกับ “พญ.ศิรินทร์ทิพย์ ศรีเดิมมา อายุรแพทย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลพญาไท 3”
โรคกินไม่หยุดคืออะไร
โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder : BED) คือโรคกลุ่มหนึ่งของจิตเวช ที่เกิดจากภาวะการกินที่ผิดปกติชนิดที่ว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่หิวก็ยังรับประทาน และที่สำคัญจะรับประทานจนอิ่มแบบไม่สามารถรับประทานอาหารอื่นๆ โดยมักมีอาการดังต่อไปนี้
- กินมากกว่าปกติ
- กินแบบควบคุมตัวเองไม่ได้
- กินเยอะในเวลารวดเร็ว
- กินได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะหิวหรือไม่หิว
- กินคนเดียว เพราะอาย
- กักตุนอาหารไว้ใกล้ตัว
- กินเสร็จแล้ว จะรู้สึกผิด โกรธ เศร้า รังเกียจ โทษตัวเอง
- กินไม่หยุดต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไป
โรคแทรกซ้อนจากการกินเยอะเกิน
การรับประทานมากเกินไป แน่นอนว่าร่างกายเราย่อมเผาผลาญไม่หมด และสิ่งที่เผาผลาญได้ไม่หมดเหล่านี้จะกลายเป็นของสะสมอยู่ในร่างกาย ก่อให้เกิดภาวะอ้วน ไขมันพอกตับ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน อีกทั้งยังอาจตามมาด้วยโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองตีบ และอื่นๆ อีกตามมาเป็นหางว่าว
กินมากไปมีผลต่อสุขภาพช่องปาก
การกินเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ใช้ฟัน เพราะเราจำเป็นต้องบด ต้องเคี้ยวอาหาร แต่เมื่อเคี้ยวบ่อยๆ ฟันก็ยิ่งมีประสิทธิภาพถดถอยลง ดังนั้นการกินเยอะจึงมีผลต่อสุขภาพช่องปาก
รายการจุดเปลี่ยนสายแข็ง by BDMS
พญ.ศิรินทร์ทิพย์ ศรีเดิมมา

กินดุกับผลข้างเคียงต่อระบบย่อยอาหาร
กินดุ กลืนเร็ว! ยิ่งทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก เพราะฟันมีส่วนสำคัญในการช่วยย่อยอาหารเบื้องต้น เมื่อกลืนเร็วไม่ค่อยได้เคี้ยว แถมกินเยอะอีก ยิ่งทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก กรณีนี้ทำแค่ครั้งคราวในเวลาเร่งด่วนอาจไม่เป็นไร แต่ถ้าทำบ่อยๆ ไม่ดี เพราะจะทำให้ท้องอืด หรือในบางคนกระเพาะรับไม่ทัน จะเรอ รู้สึกคลื่นไส้
กินเยอะแต่น้ำหนักไม่ขึ้นใช่ว่าเพราะระบบเผาผลาญดี
ในบางคนที่กินเท่าไร ก็ไม่อ้วน น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น ยอมรับว่าใช่คุณระบบเผาพลาญดี แต่ในบางโรคทำให้กินเยอะ น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากรู้สึกว่าผิดปกติควรปรึกษาแพทย์
กินเยอะ อาจไม่ใช่ตัวการทำภูมิตก
การกินเยอะ ไม่ใช่ตัวการที่ทำภูมิคุ้มกันโรคหรือภูมิต้านทานของเราต่ำลง แต่เมื่อไรที่เรามีโรคแทรกซ้อนจากการกินเยอะ อย่างโรคเบาหวาน นี่ล่ะคือตัวการที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของเราต่ำ
วิธีการรักษาโรคกินไม่หยุด
ถ้าเมื่อไรรู้สึกว่ากินไม่หยุดจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่ควรทิ้งไว้นาน เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เราไม่รู้แฝงตัวอยู่ เช่น ภาวะจิตใจอย่างโรคซึมเศร้า หรือโรคไบโพลาร์ ฯลฯ ดังนั้นควรรีบปรึกษาแพทย์แพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย ซักประวัติ เพราะมีหลากหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคกินไม่หยุดได้ อย่างไรก็ตามถ้ารีบรักษาจะกลับมาเป็นปกติได้

สำหรับ “พีช” สายแข็งเรื่องกินจุ แม้เจ้าตัวจะรักในการชิมอาหาร แต่ที่เขากินได้เยอะนั้นที่จริงแล้วเป็นการฝืนกิน ซึ่งเขายอมรับว่าทรมานมาก และเคยทำให้ตัวเองเกือบตายมาแล้ว คือตอนที่ต้องถ่ายคลิปกินราเมนขามใหญ่ขนาด 2.5 กิโลกรัม ซึ่งเขาฝืนกินไปถึง 5 ชาม ถึงขั้นทำอะไรไม่ได้ต้องนั่งพักถึง 1 ชั่วโมงถึงจะพอกลับบ้านได้ แต่ก็ยังอึดอัดมาก สีหน้าไม่ค่อยดีเลย จนลูกพูดออกมาว่า “ผมไม่อยากให้ป๊าเป็น พีช อีท แหลก เลย” จึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเราทำไปทำไม และเริ่มปรับคอนเทนต์ใหม่ เป็นรีวิวสลับกับการกินแทน
ดังนั้นถ้าใครที่รู้สึกว่าการกินของเราเริ่มผิดปกติจนควบคุมแทบไม่ไหว นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน อย่าปล่อยให้อดีตที่เคยสุด (เรื่องกิน) ต้องหยุดอยู่ที่หมอ!
ขอบคุณข้อมูลจาก : รายการจุดเปลี่ยนสายแข็ง by BDMS และ โรงพยาบาลกรุงเทพ