“ความดันโลหิตสูง” กว่า 95% เป็นโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่มีปัจจัยร่วมจากพฤติกรรม
ความดันโลหิตสูง โรคที่มักพบนในผู้สูงอายุ 60+ แต่ก็มีกลุ่มคนอายุน้อยที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า กว่า 95% ป่วยโดยไม่ทรายสาเหตุ แต่มีปัจจัยอื่น อาทิ กรรมพันธุ์ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตมาเกี่ยวข้อง
ความดันโลหิตสูง เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่เป็นโรคสำคัญที่ควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในอนาคต เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตวายระยะสุดท้าย
ความดันโลหิตสูงมีกี่ชนิด
- ความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ (primary or essential hypertension)
พบได้ประมาณ 95% ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทั้งหมด ส่วนใหญ่พบในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
แพทย์แนะวิธีเช็ดตัวช่วยให้ไข้ลดเร็วที่สุด ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
“อหิวาต์” โรคท้องเสียอย่างรุนแรง ในรายที่ติดเชื้อหนักอาจเสียชีวิตได้

แม้ปัจจุบันจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่คณะกรรมการร่วมแห่งชาติด้านการประเมินและรักษาโรคความดันโลหิตสูงของสหรัฐอเมริกาพบว่า มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง ได้แก่ กรรมพันธุ์ ความอ้วน การมีไขมันในเลือดสูง การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด การไม่ออกกำลังกาย การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ความเครียด อายุที่มากขึ้น และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ความดันโลหิตสูงชนิดที่ทราบสาเหตุ (secondary hypertension)
พบได้น้อย คือประมาณ 5-10% ส่วนใหญ่เกิดจากการมีพยาธิสภาพของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย โดยจะส่งผลให้เกิดแรงดันเลือดสูง ส่วนใหญ่อาจเกิดจากพยาธิสภาพที่ไต ต่อมหมวกไต โรคหรือความผิดปกติของระบบประสาท ความผิดปกติของฮอร์โมน โรคของต่อมไร้ท่อ โรคครรภ์เป็นพิษ การบาดเจ็บของศีรษะ การใช้ยาและการถูกสารเคมี เป็นต้น
ทั้งนี้เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าเกิดจากสาเหตุใด การรักษาที่สาเหตุก็จะทำให้ระดับความดันโลหิตจะลดลงเป็นปกติได้
อาการของโรคความดันโลหิตสูง
- ปวดศีรษะ
- เวียนศีรษะ (dizziness) มักพบว่าเกิดร่วมกับอาการปวดศีรษะ
- เลือดกำเดาไหล (epistaxis)
- เหนื่อยหอบขณะทำงาน หรือมีอาการเหนื่อยหอบจนนอนราบไม่ได้ แสดงถึงการมีภาวะหัวใจห้องล่างซ้ายล้มเหลว
อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วม ได้แก่ อาการเจ็บหน้าอกสัมพันธ์กับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากการมีเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือจากการมีกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวมากจากภาวะความดันโลหิตสูงที่เป็นมานานๆ
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง
- หัวใจ อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว มีอาการหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ มีอาการขาบวม
- ไต อาจเป็นโรคไตเรื้อรัง มีอาการขาบวม ซีด ผิวแห้ง
- สมอง อาจเป็นโรคหลอดเลือดสมอง อาการที่แสดงออก คือ มีอาการปากเบี้ยว อ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก หรืออาจมีภาวะสมองเสื่อม
- ตา อาจเกิดความผิดปกติที่จอประสาทตา
อาบน้ำไม่เกิน 10 นาที! 1 ใน 7 เคล็บลับดูแลผิวหน้าหนาว ไม่แห้งกร้านเป็นขุ่ย
ผู้ที่มีภาวะใดภาวะหนึ่ง หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงดังต่อไปนี้ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงก่อนออกกำลังกาย
- มีค่าความดันโลหิต SBP ≥ 180 มม.ปรอท หรือ DBP ≥ 110 มม.ปรอท
- มีอาการเจ็บหน้าอกหรือหายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะเมื่อออกแรงเล็กน้อยหรือขณะพัก
- มีความเสี่ยง หรือเคยมีภาวะหัวใจล้มเหลว
- มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- มีโรคเบาหวานที่ยังควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
- มีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลันอื่นๆ
- เป็นผู้สูงอายุ
- มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่จัด
พื้นฐานการดูแลสุขภาพที่สำคัญในการควบคุมความดันโลหิต ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาพของตนเอง และการรักษาโดยการรับประทานยา ซึ่งจะช่วยให้ความดันโลหิตกลับเข้าสู่ระดับที่เหมาะสม ลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 2
อากาศเย็นทำคนเศร้า ? เผยโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (S.A.D) แนะวิธีสุขภาพใจ
หน้ากากอนามัย ช่วยป้องกันฝุ่น PM2.5 หน้าหนาว แบบไหนช่วยได้มากที่สุด