“ภาวะสมองล้า” ไม่เหมือนภาวะหมดไฟการทำงาน เสี่ยงสมองเสื่อมก่อนวัย
ชวนรู้จัก ภาวะสมองล้า (Brian Fog) วัยที่ต้องทำงานหนักใช้ทักษะหลายอย่างพร้อมกัน ต้องรู้ เผยสาเหตุ และอันตรายเสี่ยงสมองเสื่อมได้อย่างไร?
รู้หรือไม่ ? ในผู้ที่ต้องใช้ความคิดหรือทำงานหลายทักษะไปพร้อมกัน เช่น เช็กอีเมล คุยโทรศัพท์ พิมพ์ไลน์ ประชุม คิดกลยุทธ์ ประสานงานกับผู้อื่น ทำสรุปและนำเสนอเจ้านาย ซึ่งพบเจอได้ในหลายสายงาน มีงานวิจัยพบว่า คนกลุ่มนี้หากไม่สามารถปรับตัวกับงานได้ จะทำให้ประสิทธิภาพและคุณภาพในงานลดลง เกิดปัญหาสุขภาพเช่น ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) ภาวะสมองล้า (Brian Fog) อีกทั้งยังมีผลต่อระดับไอคิวที่ลดลงในบางคนด้วย
9 สัญญาณ “อัลไซเมอร์” คนอายุน้อย ขี้ลืมและพฤติกรรมสับสนแบบไหนอันตราย?
3 ระยะอัลไซเมอร์ แพทย์เผยหมั่นบริหารสมองช่วยลดความเสี่ยง 113%

สมองล้า (Brian Fog) คืออะไร? เพราะ หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Burnout Syndrome หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน ซึ่งเกิดจากความเครียดสะสมเรื้อรังจากการทำงาน จนคุกคามชีวิต ส่งผลต่อสภาพจิตใจ และมีผลต่อการลาออกของพนักงาน แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า Brain Fog หรือภาวะสมองล้า ซึ่งเกิดจากสมองทำงานหนักมาก
สาเหตุสมองล้า
- พักผ่อนน้อย จนมีอาการอ่อนล้า
- ขาดการดูแลด้านโภชนาการที่ดี
- มีการสะสมของสารพิษโลหะหนัก สารพิษจากยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนมากับอาหาร
- ความเครียดสะสม
- อนุมูลอิสระในร่างกาย
- การอักเสบซ่อนเร้น
- ขาดการออกกำลังกาย
- ความไม่สมดุลของฮอร์โมนต่างๆ
- ขาดน้ำหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ
- มีอาการทางจิตประสาทหรือโรคเรื้อรังอื่นๆ ร่วมด้วย
สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ความสามารถในการทำงานของร่างกายถดถอย ต่อมหมวกไตจึงทำงานหนักขึ้น สารสื่อประสาทในสมองเริ่มแปรปรวน การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองเริ่มลดลง จึงมักจะรู้สึกหัวตื้อ มึนงง ปวดหัว คิดช้า จำเรื่องราวหรือสิ่งที่เพิ่งจะทำลงไปไม่ได้ เหนื่อยล้าทางจิตใจง่าย อารมณ์แปรปรวน หากปล่อยไว้อาจมีโอกาสเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยได้
ปรับพฤติกรรมลดความเสี่ยงภาวะสมองล้า
- จัดลำดับงานที่สำคัญจากมากไปน้อย
- หยุดเล่นโทรศัพท์สักพักหรือหยุดเสพติดข่าวหรือสื่อที่ทำให้เครียดในช่วงที่กำลังเครียดจากงาน
- มองโลกในแง่บวก และหาเวลาทำกิจกรรมโปรด เพื่อปรับอารมณ์และผ่อนคลาย
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารเช้า
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ ในช่วงที่มีความเครียด เพราะยิ่งทำให้สมองล้า
- ฝึกสมาธิ
แพทย์เผยผู้สูงอายุป้องกัน "อัลไซเมอร์" ได้ด้วยการหมั่นบริหารสมอง
ตรวจสุขภาพในกลุ่มที่เริ่มมีภาวะสมองล้า
- ฮอร์โมนไทรอยด์ (TSH, Free T3, Free T4) เนื่องจากฮอร์โมนไทรอยด์ช่วยทำให้สมองทำงานได้ปกติ กระฉับกระเฉง และกระตุ้นระดับการเผาผลาญในร่างกาย
- ฮอร์โมนดีเอชอีเอ (DHEA: Dehydroepiandrosterone) หรือฮอร์โมนต้านความเครียด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ และชะลอความเสื่อมของร่างกาย ผู้ที่มีความเครียดสะสมนานๆ ระดับฮอร์โมนตัวนี้จะลดลง
- ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด หากมีมากจนเกินไปจะส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
- การตรวจหากรดอินทรีย์ในปัสสาวะ (Urine Organic) เป็นการตรวจการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
- การตรวจสารพิษโลหะหนักสะสมในปัสสาวะ (Toxic Heavy Metal) เพราะอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะสมองล้า จนมีอาการสับสน และสูญเสียความจำ เกิดจากสารพิษโลหะหนักที่สะสมอยู่ตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่น สมอง ดังนั้นการหาสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย จึงต้องอาศัยการตรวจจากปัสสาวะ
ดังนั้นหากมีอาหารหลงลืมผิดปกติ รีบปรับพฤติกรรม พบแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
ปรับ 8 พฤติกรรมลดเสี่ยงอัลไซเมอร์ สูงวัยอย่างสุขภาพที่ดี
หยุดหายใจขณะหลับ กี่ครั้งต่อชั่วโมงรุนแรงมาก ? เผยปัจจัยเสี่ยงและวิธีรักษา