สำลัก อาหารติดคอ แนะวิธีปฐมพยาบาล ลดเสี่ยงเสียชีวิต
สำลัก อาหารติดคอ สิ่งแปลกปลอมอุดกลั้นทางเดินหายใจ อันตรายใกล้ตัวที่ต้องระวัง และเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
สิ่งแปลกปลอมอุดกลั้นทางเดินหายใจมักทำให้หายใจไม่ออกเฉียบพลัน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลอย่างถูกต้องและทันท่วงที ภาวะนี้มักพบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่ ในผู้ใหญ่สามารถเกิดปัญหาสำลักได้เช่นเดียวกัน เมื่อผู้ป่วยพยายามจะทำกิจกรรมหลายๆอย่างในขณะกินอาหาร เช่น พูด, หัวเราะ เป็นต้น
สำลักน้ำเกลือ อันตรายหรือไม่ ? แนะวิธีล้างจมูกที่ถูกต้องทำได้ง่าย
เตือนภัย! อากงวัย 83 อาหารติดคอถึงขั้นวิกฤติหัวใจหยุดเต้น-พยาบาลยื้อชีวิตทัน
ระดับความรุนแรงของการอุดกั้นทางเดินหายใจ
1.การอุดกั้นทางเดินหายใจบางส่วน (Partial obstruction)
ผู้ป่วยยังพอหายใจเองได้ยังพอพูดมีเสียง หายใจมีเสียงหวีด มักบอกได้ว่ามีสิ่งอุดกลั้นทางเดินหายใจและยังสามารถไอสิ่งอุดกั้นออกมาเองได้
2.การอุดกั้นทางเดินหายใจแบบรุนแรง (Complete obstruction)
ผู้ป่วยอาจใช้มือกุมคอ หายใจลำบาก หน้าเขียว ปากเขียว พูดไม่มีเสียง อาจหมดสติ ไม่หายใจและเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้
วิธีปฐมพยาบาล
- หากผู้ป่วยมีสิ่งแปลกปลอมอุดกลั้นทางเดินหายใจบางส่วน ให้ผู้ป่วยพยายามไอออกมาเอง โดยเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
- หากผู้ป่วยมีสิ่งแปลกปลอมอุดกลั้นทางเดินหายใจแบบรุนแรง ให้ถามผู้ป่วยว่าสำลักหรือไม่ หากผู้ป่วยพยายามพูดแต่ไม่มีเสียง ให้ปฏิบัติดังนี้
- ยืนด้านหลังผู้ป่วย วางเท้าตรงระหว่างเท้าทั้งสองข้างของผู้ป่วย
- กำมือ ประสานลงที่ท้องผู้ป่วย ตรงตำแหน่ง เหนือสะดือ ใต้ลิ้นปี่
- ออกแรงกระทุ้ง ดันขึ้นด้านบน อาจให้ผู้ป่วยก้มตัวเล็กน้อยเพื่อง่ายต่อการช่วยเหลือ
- ทำรอบละ 5 ครั้ง ทำต่อเนื่องจนกว่าจะหลุดออกมา
- หากผู้ป่วยหมดสติ ให้โทร 1669 และเริ่มทำ CPR
กรณีอยู่ตามลำพัง ให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองดังนี้
- กำหมัดข้างหนึ่งวางตรงเหนือสะดือ ใต้ลิ้นปี่
- ใช้มืออีกข้างจับมือที่กำหมัดไว้แล้วก้มหัวให้มือพาดขอบแข็งๆ เช่น พนักเก้าอี้ ขอบโต๊ะ เป็นต้น
- ก้มตัวลงแรงๆ เพื่อกระแทกหมัดอัดเข้าท้องในลักษณะดันขึ้นข้างบน ทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง จนกว่าสิ่งแปลกปลอมหลุด
อุทาหรณ์! สาวคาบเข็มหมุดในปาก "สำลัก" ลงหลอดลม
ข้อพึงระวัง
- ไม่แนะนำให้ใช้นิ้วมือกวาดไปในลำคอเด็ก เนื่องจากอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมเคลื่อนตัวไปสู่ตำแหน่งที่มีการอุดกั้นมากขึ้น
- วิธีของ Heimlich ดังกล่าวควรใช้ในกรณีฉุกเฉินที่ผู้ป่วยมีการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างสมบูรณ์เท่านั้นและผู้ช่วยเหลือควรมีความชำนาญพอสมควร ในกลุ่มผู้ป่วยที่ยังพอมีสติ หายใจเองได้ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลมากกว่า เนื่องจากการตัดสินใจใช้วิธีดังกล่าวในผู้ป่วยที่มีการอุดกั้นทางเดินหายใจอย่างสมบูรณ์
ปัญหาที่เกิดตามหลังการสำลัก
- ทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ซึ่งทางเดินหายใจมีขนาดเล็กอยู่แล้ว การอุดกั้นแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
- เกิดการอุดกั้นของหลอดลมส่วนปลาย ทำให้เกิดภาวะปอดแฟบ ปอดพอง หรือหอบหืดได้
- เกิดการอุดกั้นการระบายของเสมหะในทางเดินหายใจ ทำให้เกิดปัญหาการอักเสบติดเชื้อตามมาเช่น ปอดอักเสบ , หลอดลมอักเสบ เป็นต้น
- สิ่งแปลกปลอมบางชนิดเช่น ถ่านนาฬิกา, ถ่านเครื่องคิดเลข เมื่อตกค้างในทางเดินหายใจจะทำปฏิกิริยากับเสมหะหรือสิ่งคัดหลั่งต่างๆ เกิดเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างเข้มข้น รั่วซึมออกจากตัวถ่าน ทำให้เกิดการทำลายของเนื้อเยื่อข้างเคียงอย่างรุนแรง จนบางครั้งเกิดการทะลุของอวัยวะภายในเข้าสู่ช่องอกเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก : ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ภาพจาก : Shutterstock
“กรดไหลย้อน” โรควัยทำงาน ยิ่งอ้วนยิ่งเสี่ยง เผยพฤติกรรมต้องระวัง
วิธีใช้ “เครื่องกระตุกหัวใจ” เพิ่มโอกาสการรอดชีวิต ผู้ป่วยโรคหัวใจ