ปวดท้อง "ไส้ติ่งอักเสบ" สังเกตให้เป็นก่อนเสี่ยง “แตก”

ปวดท้องไส้ติ่งอักเสบ อาการที่หลายคนมักคิดว่าเป็นอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะ หรือภาวะท้องเสีย กว่าจะรู้ตัวก็เสี่ยงต่อการเกิด “ไส้ติ่งแตก” ที่อันตรายถึงชีวิต หากไม่แน่ใจว่าลักษณะอาการปวดท้องที่เป็นอยู่ เกิดจาก “ไส้ติ่งอักเสบ” หรือไม่? นี่คือข้อสังเกตที่จะช่วยให้คุณรู้คำตอบ

ทำไม? ถึงเกิดภาวะ

เมื่อ “ไส้ติ่ง” ส่วนของลำไส้ที่ยื่นออกมาจากลำไส้ใหญ่ส่วนต้นตรงบริเวณท้องน้อยด้านขวาเกิดการอุดตันโดยอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด

ปวดท้องอย่าชะล่าใจ  หลอดเลือดแดงใหญ่อาจ "ปริ แตก" อันตรายถึงชีวิต

กินเก่ง อายุน้อย หนักเกือบร้อย  ระวัง "โรคนิ่วในถุงน้ำดี"

หรืออาจเกิดจากการอุดตันของเศษอุจจาระแข็งๆ หรือ “นิ่วอุจจาระ” ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูไส้ติ่งเกิดการแพร่พันธุ์และกระจายไปยังผนังไส้ติ่งจนทำให้เกิดการอักเสบ

หลักการกินอาหาร ช่วยต้าน “นิ่วในถุงน้ำดี” ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม

สังเกตอาการเบื้องต้น ใช่ “ไส้ติ่งอักเสบ” หรือไม่?

• ปวดตรงลิ้นปี่หรือรอบๆ สะดือ ทำให้ลักษณะอาการมีความใกล้เคียงกับโรคอื่น เช่น โรคกระเพาะ 
• เจ็บตรงท้องน้อยข้างขวา
• ครั่นเนื้อครั่นตัว
• คลื่นไส้อาเจียน
• ถ่ายเหลวท้องเสีย

อาการปวดท้องแบบนี้ เสี่ยง “ไส้ติ่งอักเสบ”

ลักษณะอาการปวดท้องที่สังเกตได้อีกอย่างว่าอาจเกิด “ไส้ติ่งอักเสบ” คือ อาการปวดท้องน้อยโดยเฉพาะบริเวณด้านขวา ที่มีลักษณะปวดเสียดตลอดเวลา และเจ็บมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย ปวดติดต่อกันเป็นเวลานานปวดแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยอาจมีอาการปวดนานถึง 6 ชั่วโมง และไม่สามารถบรรเทาอาการปวดด้วยการทานยาได้

“ไส้ติ่งแตก” ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต

เราอาจเคยได้ยินบ่อยครั้งถึง “ภาวะไส้ติ่งแตก” ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังไส้ติ่งมีการอักเสบแต่ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที! โดยหลังเกิดการอักเสบ ผนังไส้ติ่งอาจเน่าและแตกทะลุภายใน 24-36 ชั่วโมง และหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาภาวะไส้ติ่งแตกในทันที อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ การรักษา…ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

สมัยก่อนการผ่าตัดไส้ติ่งจะใช้วิธีการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ทำให้หลายคนกังวลจนไม่กล้าไปพบแพทย์ แต่ในปัจจุบันการผ่าตัดรักษาไส้ติ่งอักเสบ มีการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็ก โอกาสเกิดพังผืดหลังผ่าตัดและภาวะแทรกซ้อนขณะผ่าตัดมีน้อย ที่สำคัญ คือใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เพียง 1-2 วัน ผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้

เพราะไส้ติ่งอักเสบเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย เมื่อมีอาการผิดปกติข้างต้น…อย่ามัวหายาทานเองและคิดว่าเดี๋ยวก็คงหายแต่ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อการผ่าตัดรักษาที่ทันท่วงที เพราะ “ภาวะไส้ติ่งแตก” ไม่ใช่เรื่องเล็ก…ที่น่าเสี่ยงเอาซะเลย!

ขอบคุณข้อมุลสุขภาพจาก โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4

หมอเผยคนไทยอายุน้อยกว่า 42 ปี ถือว่าไม่มีภูมิคุ้มกันต่อ "ฝีดาษลิง"

สำลัก อาหารติดคอ แนะวิธีปฐมพยาบาล ลดเสี่ยงเสียชีวิต