วาเลนไทน์ให้ "ดาร์กช็อกโกแลต"แทนใจช่วยหัวใจแข็งแรง ลดอัลไซเมอร์
เทศกาลแห่งความรัก วาเลนไทน์ 2567 (Valentine's Day) ซึ่ง "ช็อกโกแลต" เป็นของขวัญสุดคลาสสิกที่จะมอบให้แก่คนที่รักเพื่อเป็นของแทนใจของความรัก ซึ่งหากกินอย่างถูกวิธี ในปริมาณกำลังดี ร่างกายจะได้ประโยชน์ พร้อมดีต่อหัวใจและบำรุงสุขภาพกาย
ช็อกโกแลต ของขวัญแทนใจ ประจำวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ วาเลนไทน์(Valentine's Day) ด้วยรสชาติหวานชื่นใจอันเป็นเอกลักษณ์จึงเชื่อว่าจะทำให้ความรักหวานชื่นดังช็อกโกแลต อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของทุกเพศทุกวัย และถูกนำว่าประยุกต์เป็นของหวานอีกมากมาย อาทิ เค้ก คุกกี้ และของหวานน่าตาน่าอร่อย ซึ่งมีแคลอรีที่สูงและอาจทำให้เป็นอันตรายได้ ซึ่งอันที่จริงช็อกโกแลตนั้นนับเป็นอาหารอารมณ์ดีที่ช่วยลดความเครียดได้ "หากกินแต่พอดี" เป็นมิตรต่อร่างกายโดยเฉพาะกับหัวใจ
รวม 10 ของขวัญ "วันวาเลนไทน์" ให้แล้วการันตีความอบอุ่นใจ
7 Trick ต้องจด "ดินเนอร์" เพิ่มหวานมัดใจแฟน รับวาเลนไทน์ 2567
สารที่ซ้อนอยู่ในช็อกโกแลต
- สารคาเฟอีน (Caffeine) มีคุณสมบัติกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ
- สารทิโอโบรมีน (Theobromine) ช่วยลดความดันโลหิต กระตุ้นการเต้นของหัวใจ สามารถลดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้
- สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ในกลุ่มโพลิฟีนอล (Polyphenol) ต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมความแข็งแรงของหลอดเลือดหัวใจและสมอง ช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของโรคหัวใจได้
ประโยชน์ของช็อกโกแลต
- ช่วยระบบไหลเวียนของหลอดเลือดและบำรุงหัวใจ
- ช่วยลดภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ
- ช่วยลดอาการเบาหวาน
- ปกป้องผิวหนังจากแสงยูวี
- ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
- ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยบรรเทาอาการไอได้ด้วย ซึ่งดาร์กช็อคแลตที่ใช้ได้ผลดีที่สุด เพราะความขมของดาร์กช็อคโกแลต ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำคอ
ช็อกโกแลตทำให้อารมณ์ดี
- สารอะนันดาไมด์ ทำหน้าที่ลดความเจ็บปวด ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายและกระตุ้นให้อารมณ์ดีขึ้น
- สารแฟนิลเอทิลามีน (Phenylethylamine-PEA) ช่วยสร้างสารสื่อประสาทช่วยในการลดความเครียด ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้การรับประทานช็อกโกแลตเกิดความรู้สึก feel good อีกทั้งยังเพิ่มพลังทางเพศอีกด้วย เลือกให้มาก รับประทานให้พอดี
ฉลอง “วันวาเลนไทน์” แจก 7 เมนู "อาหารไทยสีชมพู" ให้หวานฉ่ำ
การรับประทานช็อกโกแลตให้มีประโยชน์สูงสุดควรเลือกดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate)
ที่ผลิตจากผลโกโก้ ซึ่งมีปริมาณของโกโก้สูง 70-85% โดยแนะนำให้รับประทาน 50- 100 กรัม ต่อวัน ความถี่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันโรคหัวใจ แม้ดาร์กช็อกโกแลตจะมีส่วนผสมของน้ำตาลและนมน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลย อีกทั้งแคลอรี่ในช็อกโกแลตมีปริมาณที่สูง ดังนั้นจึงควรรับประทานช็อกโกแลตในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช
5 วิธีโสดอย่างมีความสุขใน “วันวาเลนไทน์ 2567”
แต่งค่ะ! พิกัดจดทะเบียนสมรสชื่อมงคลจดแล้วรักปัง ในวาเลนไทน์ 2567