ลิสต์อาหารมงคลไหว้ “ตรุษจีน 2566” กินแบบไหนสุขภาพดีตลอดปี?
ตรุษจีน 2566 หลายครอบครัวเตรียมตัวจัดโต๊ะไหว้เจ้า และ บรรพบุรุษ ซึ่งในวันจ่ายศุกร์ที่จะถึงนี้(20 มกราคม66) แล้วไหว้อะไรแบบไหนถึงจะเป็นสิริมงคล ที่สำคัญไหว้แบบไหนสุขภาพดี พร้อมเปิดประโยชน์และแคลอรีของไหว้แบบละเอียด
“เทศกาลตรุษจีน” ถือเป็นวันปีใหม่ของคนจีนทั่วโลกตามปฏิทินจีน และผู้ที่มีเชื้อสายจีนทุกคนให้ความสำคัญกับวันนี้อย่างมาก โดยในปีนี้วันไหว้จะตรงกับ วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 แต่ก่อนหน้านั้น ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (20 มกราคม 2566) เป็นวันจ่าย ที่ตามธรรมเนียมแล้วผู้มีเชื้อสายจีน จะเลือกซื้ออาหารมงคล ทั้งของคาวหวานและผลไม้ เครื่องเซ่นต่างๆ มาจัดเตรียมไว้
วันตรุษจีน 2566 เปิดเทคนิคไหว้ 3 เวลา เพื่อเสริมมงคล
“ตรุษจีน 2566” วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ตรงกับวันไหน อะไรที่ไม่ควรทำ
โดยคนจีนโดยพื้นฐานแล้วเป็นคนที่พิถีพิถันในการกินไม่แพ้ชาติอื่น และต้องมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่นำมาไหว้บรรพบุรุษ จะต้องเป็นของดีและมงคลชีวิตอย่างยิ่ง เช็กเลยว่ามีอะไร และแคลอรีเท่าไหร่บ้าง เพื่อให้กินได้อย่างมีความสุขเป็นมงคลแถมสุขภาพดี
การจัดของไหว้เจ้า โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าจัดชุดใหญ่ นิยมเป็นตัวเลข 5 คือ มีของคาว 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวแซ” ของหวาน 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวเปี้ย” และ ผลไม้ 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวก้วย” แต่ในปัจจุบัน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามยุคตามสมัยและราคาที่เหมาะสม
- ปลานึ่ง
เริ่มกันที่ เมนูปลา ที่กินง่ายและมีประโยชน์ไม่ว่าจะทำเมนูไหนก็กินได้ทั้งบ้านเพราะย่อยง่ายไขมันต่ำ เป็นเมนูคลีนๆที่เต็มไปด้วย โอเมก้า 3 สูง โดยปลา 100กรัม เท่ากับ 97 กิโลแคลอรี แถมยังมีความหมายดีๆ รับตรุษจีน เพราะคำว่าปลานั้น ไปพ้องเสียงกับ ภาษาจีนกลางจะไปพ้องเสียงกับคำว่า “อวี๋ (余)” และในภาษาจีนแต้จิ๋วจะพ้องเสียงกับคำว่า “อื้อ” ที่มีความหมายว่า “ยังมีอยู่” หรือ “ยังเหลืออยู่” ซึ่งอีกความหมายหนึ่งคือความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูนด้วยความสุขและเงินทอง มั่งมีมั่งคั่งตลอดปีตลอดไป โดยเชื่อกันว่าต้องนำมาปรุงทั้งตัว ไม่แยกออกเป็นส่วนๆ เมนู แนะนำ ปลานึ่งซีอิ๋วและ ปลาจาระเม็ดนึ่งเกี้ยมบ๊วย ปลากะพงนึ่งมะนาว กินคู่กับผักต้ม รับรองเลยค่ะ ปังรวยเฮงแถมเฮลตี้แน่นอน!
- เป็ดย่าง ไก่ต้ม
เนื้อสัตว์สำคัญในการไหว้เจ้าซึ่งเป็ด สื่อความหมายถึงความรุ่งเรืองและการมีความสามารถ เพราะอย่าลืมว่าเป็ดนั้น สามารถอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ เป็ดจัดว่าเป็นวัตถุดิบที่เสริมสิริมงคลเลยทีเดียว ซึ่งเป็ด 1 ตัวมีพลังงานประมาณ 5,700กิโลแคลอรี เช่นเดียวกับ ไก่ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะไหว้เจ้าเพราะ แสดงถึงความขยันขันแข็ง เพราะนิสัยของไก่เป็นสัตว์ที่ตื่นเช้า ส่งเสริมหน้าที่การงานก็เจริญรุ่งเรือง ทำการค้าขายได้ประสบความสำเร็จ แต่ต่างกันที่ ไก่ 2,800 กิโลแคลอรี ซึ่งเช่นเดียวกับปลาที่ตามความเชื่อต้องปรุงมาครบทั้งตัว พร้อมเครื่องใน ห้ามตัดหัวหรือขาอย่างเด็ดขาด อีกทั้งยังเป็นประโยชน์และมีโปรตีนสูง ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน B1 และ วิตามิน B2 สารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยในการรักษาปอดและไตให้ทำงานได้เป็นปกติ ด้วยนะคะ อีกทั้งเมื่อเหลือจากการกินมื้อนั้นแล้วยังมาแปรรูปเป็น ไก่รวน เป็ดรวน ก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ
- หัวหมู เนื้อหมู
หลายคนคงจะรู้จักกันดีอยู่กันดีอยู่แล้ว ยิ่งถ้าถึงเทศกาลตรุษจีนเมื่อไหร่ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “หัวหมูไหว้เจ้า” ที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ พูนทรัพย์ ความมั่งคั่งร่ำรวย ตามความเชื่อของจีน ดังนั้นหัวหมูจึงถือเป็นเคล็ดว่าขอให้ชีวิตราบรื่นตลอดปี ซึ่ง หัวหมู 1 หัว มีแคลอรีประมาณ 3,000 กิโลแคลอรี ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนแล้ว ยังมี วิตามินบี 1 ช่วยลดอาการเหน็บชา วิตามินเอ บำรุงสายตา ระบบประสาทและสมอง อีกด้วย ซึ่งหากหัวหมูแพงเกินไป สามารถเปลี่ยนมาเป็นเนื้อหมูได้เช่นกันค่ะ
- ผัดหมี่ซั่ว
อาหารมงคล สื่อความหมายหมายถึง การอวยพรให้มีอายุยืนยาว ซึ่งผัดหมี่ซั่ว หรือ โช่วเมี่ยน (寿面) มีความหมายว่า “หมี่อายุยืน” เป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ในงานวันเกิดครบอายุ 50 ปีของชาวแต้จิ๋ว ซึ่งตามความเชื่อ ต้องผัดไม่ให้เส้นขาด เพราะถือว่าไม่เป็นมงคลแก่ชีวิต วัตถุดิบที่ผัดกับหมี่ซั่วก็ล้วนแล้วแต่มีความหมายมงคลทั้งสิ้น เช่น เห็ดหอม กุยฉ่าย กะหล่ำปลี และผักอื่นๆ ตามใจชอบ นับเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพเพราะมีผักและเนื้อสัตว์หลากหลายที่ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะมี แคลอรีอยู่ที่ 395 กิโลแคลอรีต่อจาน
ขนมมงคล
- ขนมเทียน สื่อถึง การมีชีวิตที่ราบรื่น และด้วยรูปร่างขนมที่เป็นกรวยแหลมเหมือนเจดีย์ในวัด จึงถือว่าเป็นขนมมงคลที่ใช้ในวันสำคัญทั้งของชาวไทยและชาวจีน ซึ่ง115 kcal
- ขนมเข่ง สื่อถึง ความหวานชื่น ความราบรื่น และความอุดมสมบูรณ์ 1 ชิ้น 150-200 kcal.
- ขนมไข่ สื่อถึงสิ่งมงคล เพราะเป็นต้นกำเนิดของการเกิด เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ 1 ชิ้นอยู่ที่ 17 กิโลแคลอรี
- ขนมถ้วยฟู สื่อความหมายถึงความเฟื่องฟู เพิ่มพูนความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตให้ก้าวหน้า 1 ชิ้น 50 kcal
- ขนมสาลี่ สื่อถึงชีวิต รุ่งเรือง เฟื่องฟู เพิ่มพูน 1 ชิ้น 154 กิโลแคลอรี
ผลไม้มงคล
- ส้ม ถือ เป็นผลไม้มงคลเพราะมีสีผิวเป็นสีทอง สัญลักษณ์ของความโชคดี ร่ำรวยเงินทอง ลักษณะของส้มที่ใช้ไหว้เจ้าที่ถูกต้อง ต้องมี มีสีทอง ไม่มีรอยลูกใหญ่เท่ากันหมด ซึ่งนิยม ไหว้ 4 ลูกเพราะอวยพรความโชคดี แถมเชื่อว่าจะทวีคูณตามจำนวนของส้มที่ไหว้ด้วยนะคะ
- ส้ม 4 ลูก ไหว้ขอพรจากผู้ใหญ่ ตัวแทนแห่งเครื่องสักการะ 4 ฤดู สำหรับการไหว้เทพเจ้า ความมั่งมี มั่งคั่ง และร่ำรวยตลอดปี
- ส้ม 8 ลูก เพราะเลข 8 พ้องเสียงคำว่า ‘ฟาไฉ’ แปลว่า เฮง เฮง เฮง ทั้งยังเหมือนเครื่องหมายอินฟินิตี ส้ม 8 ลูก จึงหมายถึงความเจริญก้าวหน้า ร่ำรวย แบบไม่มีที่สิ้นสุด
- ส้ม 12 ลูก สื่อความหมายถึงความร่ำรวยมหาศาล และแจกจ่ายมงคลให้คนรอบข้างด้วย
ทั้งนี้ส้มอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยแก้ท้องผูก กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งส้ม 1 ผล มีแคลอรีประมาณ 50กิโรแคลอรี
- กล้วยหอม สื่อถึง การกวักโชคลาภ การมีลูกมีหลานสืบสกุล มีบริวารที่ดี มีพลังงานประมาณ 132 กิโลแคลอรี อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮีโมโกลบินให้กับเม็ดเลือดแดง จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจางได้
- สับปะรด สื่อความหมายถึงโชคลาภ ซึ่ง 6-8 ชิ้น อยู่ที่ ประมาณ 60 กิโลแคลอรีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง ลดอาการท้องผูก ลดเสมหะในลำคอ
- แก้วมังกร ผลไม้ที่มีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ การมีโชคลาภ แถมอุดมไปด้วยประโยชน์ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น ต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ชะลอวัย ซึ่งแก้วมังกร 100กรัม มีพลังงานทั้งหมด 66 กิโลแคลอรี่
- แอปเปิ้ลแดง สื่อความหมายถึง สันติสุข การเป็นอยู่ที่สงบสุข ไร้ความวุ่นวาย ไร้โรคภัยใด ๆ มาเบียดเบียน มีประโยชน์ ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ผิวสุขภาพดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและหัวใจ โดยแอปเปิ้ล 1 ลูกมีพลังงานประมาณ 178 กิโลแคลอรี่
โดยก่อนหน้าที่ กรมอนามัยได้ออกมาเตือนในการรับประทานอาหารในวันตรุษจีนว่า “เลี่ยงการกินหนัง เครื่องใน หรือส่วนที่ติดมัน จิ้มน้ำจิ้มแต่น้อย เพื่อลดปริมาณโซเดียม” เช่นเดียวกับของหวานที่แม้จะเกินจะหักห้ามใจแต่ควรกินแต่พอดี เพราะหากร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินความจำเป็นอาจนำมาซึ่งโรคอ้วนได้
ส่วนผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเกาต์ ควรเลือกกินอาหารด้วยการต้ม อบ ยำ แทนการทอดหรือผัด เลี่ยงเนื้อสัตว์ติดหนัง ติดมัน ดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดี ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เอาเป็นว่าตรุษจีนนี้นอกจากเสริมสิริมงคลด้วยการไหว้เจ้าแล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างด้วยนะคะ
รวม 10 ไอเทมสีแดง ต้อนรับ "วันตรุษจีน 2566" มีไว้อั่งเปาเต็มเป๋า!
ชาวจีนเริ่มเดินทางช่วงตรุษจีน แม้โควิด-19 ยังน่าเป็นห่วง