“มะละกอ” ผลไม้สนับสนุนการขับถ่าย ช่วยลดน้ำหนักป้องกันโรคหัวใจ
ท้องไม่โล่ง ถ่ายไม่ออก มีปัญหาท้องผูก ผลไม้แรกๆที่นึกถึง คือ “มะละกอ” ใช่ค่ะ น้องดีงามมาก นอกจากจะราคาถูก ยังประกอบได้หลายเมนู ที่นิยมเห็นจะเป็น เมนูส้มตำแซ่บๆ กรอบๆ แกงส้ม แกงเหลือง แกงอ่อม หรือจะแบบสุกที่นุ่มนิ่ม หอม หวาน จะกินแบบสมูทตี้ก็ไม่ติด อีกทั้งยังมีวิตามินเอและแคลเซียมสูง อุดมประโยชน์ล้ำอีกด้วย
มะละกอ ผลไม้ เนื้อสีส้มเนียน นิยมมาปรุงเป็นทั้งของคาวและของหวานรวมทั้งแบบกินสด ยิ่งถ้าวันไหนรู้สึกไม่สบายท้องได้กินเข้าไปสักนิดรับรองถูกใจสายท้องผูกแน่นอนค่ะ เพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และเกลือโซเดียมต่ำ อุดมเส้นใยอาหาร ธาตุโพแทสเซียม วิตามินเอ ซี และโฟเลต มีไลโคพีนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย
- ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
มะละกอสุกอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด และป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย
สธ.ยัน เคี้ยวเม็ดมะละกอสุกวันละ 3 เม็ด รักษามะเร็งระยะสุดท้ายไม่ได้
“แตงโม” ผลไม้เนื้อหวานสดชื่น เสริมภูมิต้านหวัดช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
นอกจากนี้มะละกอมีเอนไซม์ปาเปน สามารถนำมาใช้ด้านการแพทย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทางการกีฬา อาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหัวใจที่มีสาเหตุจากโรคเบาหวานได้
- ช่วยระบบทางเดินอาหาร
แน่นอนค่ะว่าเป็นตัวช่วยที่ดีงามมาก เพราะมะละกอ อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอลและการขับถ่าย สารอาหารในมะละกอช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะสามารถจับกับสารพิษก่อมะเร็งในลำไส้ใหญ่และพาส่งออกทำให้เกิดการสัมผัสกับเซลล์ลำไส้ใหญ่น้อยที่สุด โดยลดการถูกทำลายของสารพันธุกรรมในเซลล์ดังกล่าวด้วยอนุมูลอิสระและเมื่อระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้นส่งผลดีต่ออัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นด้วย
- ฤทธิ์ต้านอักเสบ
มะละกอมีเอนไซม์ปาเปนและไคโมปาเปนช่วยย่อยโปรตีน เอนไซม์เหล่านี้สามารถช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสมานแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ งานวิจัยจากประเทศมาเลเซียพบว่า สารสกัดจากเปลือกผลมะละกอดิบเร่งอัตราเร็วของการสมานแผลในหนูทดลองได้เร็วกว่าการใช้ยาทา Solcoseryl ถึง 1 สัปดาห์
บีตาแคโรทีน วิตามินซีและอีในมะละกอก็มีฤทธิ์ลดการอักเสบเช่นกัน ดังนั้นผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์จะได้ประโยชน์จากการกินมะละกอเพื่อลดอาการของโรคดังกล่าว ปัจจุบันมีการใช้เอนไซม์จากมะละกอดังกล่าวผลิตเป็นยาเม็ด ลดอาการบวม การอักเสบจากบาดแผลหรือการผ่าตัดแล้ว
- ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน
ร่างกายมนุษย์สามารถเปลี่ยนบีตาแคโรทีนที่ได้จากมะละกอสุกเป็นวิตามินเอและซีได้ เนื่องจากร่างกายต้องการวิตามินทั้งสองเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ให้ทำหน้าที่ได้ราบรื่น จึงพบว่าการกินมะละกอ เป็นประจำอาจลดความถี่การเกิดไข้หวัดและการติดเชื้อในช่องหูได้
- การป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อม
งานวิจัยตีพิมพ์ในต่างประเทศกล่าวว่าการกินผลไม้ 3 ครั้งต่อวันอาจลดความเสี่ยงของอาการภาวะจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ อันเป็นสาเหตุของการเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ เนื่องจากคนไทยกินมะละกอ ทั้งดิบหรือสุกอยู่เป็นปกติ ดังนั้นเราจึงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าวลดลงในยามชรา
ผักผลไม้ดีต่อสุขภาพของ "หัวใจ" ป้องกันให้แข็งแรงห่างไกลโรค
- มะละกอมีประโยชน์ต่อมะเร็ง
การศึกษาพบว่าเอนไซม์ปาเปนในมะละกอสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และมีอีกหนึ่งงานวิจัยในการแพทย์อินเดียพบว่าสารสกัดเฮกเซนของเมล็ดมะละกอมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างสารซูเปอร์ออกไซด์ และมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็ง ส่วนสารสกัดจากใบมะละกอเมื่อสัมผัสกับเซลล์มะเร็งบางชนิดผลการวิจัยพบว่าเซลล์แสดงการเติบโตของเนื้องอกที่ช้าลง
คำเตือนการกินมะละกอ ร้อยละ 92 ของพลังงานจากมะละกอสุกมาจากคาร์โบไฮเดรต ผู้ที่ควบคุมอาหารแป้งและน้ำตาลจึงไม่ควรกินมะละกอมากเกินไป สำหรับคนที่มีปัญหาท้องผูกก็ควรกินแต่พอดี และกินน้ำเปล่าสะอาดตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ อย่าลืมทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเชียงคำจังหวัดพะเยา
ผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน กินได้น้ำตาลน้อย กากใยสูง
“ส้มยูซุ” ผลไม้ยอดฮิตที่ได้ประโยชน์ไม่แพ้ความอร่อย