รู้จักวิตามินแต่ละชนิด รับวิตามินธรรมชาติได้จากไหน? และอาการขาดวิตามิน
วิตามินหรืออาหารเสริมมากินเองนั้นทำได้ง่ายเหมือนการซื้อขนม ซึ่งการกินอาหารที่ครบ 5 หมู่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ร่างกายไม่ขาดสารอาหาร แล้ววิตามินแต่ละชนิดช่วยร่างกายด้านไหนบ้าง? อาการขาดวิตามินเป็นอย่างไร?
วิตามินเป็นกลุ่มสารประกอบอินทรีย์ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ซึ่งเราจะต้องได้รับจากการกินอาหารประเภทต่างๆ เพราะร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง (ยกเว้นวิตามินดี ที่จะมีการสังเคราะห์ที่ผิวเมื่อได้รับแสงแดด) โดยวิตามินแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
- กลุ่มที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินบี และวิตามินซี
- กลุ่มที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ, ดี, อี และวิตามินเค
วิตามินอะไรเหมาะกับเรา? กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดไม่สิ้นเปลือง
10 เรื่องวิตามินที่ควรรู้ ฟื้นฟูร่างกายหลังใช้ร่างกายหนักตลอดปี
วิตามิน มีหน้าที่และประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
- วิตามินเอ เกี่ยวกับสายตาและการเจริญเติบโต
- พบมากในกลุ่ม ผัก ผลไม้ สีเหลือง ส้ม เขียว อาทิ ฟักทอง,ข้าวโพด,มะละกอ และแคนตาลูป
- วิตามินบี เกี่ยวกับระบบประสาท การสร้างพลังงานและเม็ดเลือด
- พบมากในกลุ่ม เนื้อหมูไม่ติดมัน,ปลา,ตับ,นม,ไข่ ,ข้าวซ้อมมือ,ข้าวกล้องและถั่วต่าง ๆ
- วิตามินซี เกี่ยวกับการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- พบมากในกลุ่ม ส้ม,ผักคะน้า,มะขามป้อมและมะละกอ
- วิตามินดี เกี่ยวกับกระดูก
- พบมากในกลุ่ม น้ำมันตับปลา,ปลาแซลมอน,ทูน่า,ไข่แดง,นมและผติภัณฑ์จากนม,เห็ด และเมล็ดธัญพืช นอกจากนี้สามารถการกระตุ้นสารรังสี Ultraviolet B (UVB) สังเคราะห์วิตามินดีได้ในเวลาตั้งแต่ 08.00 – 10.00 น. และ 15.00 – 17.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดไม่แรง เพียงวันละเวลา15 – 30 นาที
- วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- พบมากในกลุ่ม ไข่, อะโวคาโดและอาหารจำพวกถั่ว
- วิตามินเค เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดและกระดูก
- พบมากในกลุ่ม มะเขือเทศ,ดอกกะหล่ำ,ไข่แดง,น้ำมันถั่ว,ตับและเนื้อหมู
วิตามินกลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการสร้างพลังงาน การสร้างภูมิคุ้มกันโรค การซ่อมแซมร่างกาย รวมถึงการต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น
ใครบ้าง เสี่ยงขาดวิตามิน?
จริงอยู่ที่การกินอาหารที่หลากหลายตามหลักโภชนาการจะช่วยให้เราได้รับวิตามินอย่างครบถ้วนและเพียงพอ ปัจจุบันไม่ค่อยพบการขาดวิตามินในคนไทยเหมือนในอดีต แต่ต้องระวังถึงปัจจัยเหล่านี้
- การเป็นผู้สูงอายุ
- การงดรับประทานเนื้อสัตว์
- การผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
- การกินยาบางอย่างที่ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบางชนิดลดลง
- การได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
- การมีพฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว เช่น ดื่มสุรา สูบบุหรี ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากๆ
วิตามินดี ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ช่วยปรับสมดุลในเลือดป้องกันเบาหวาน
ความลับของ “วิตามินซี” กินวันละเท่าไหร่มีผลดีต่อร่างกายมากที่สุด?
สัญญาณ “ขาดวิตามิน” แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
- ขาดแบบชัดเจน จนเกิดโรคหรืออาการแสดง เช่น การขาดวิตามินบี 12 และโฟเลต ทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง หรือการขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกบวม เลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น
- ขาดแบบไม่พอเพียง เช่น ขาดวิตามินบี 12 จากการกินมังสวิรัติ ทำให้มีอาการไม่สบายทางกายอย่างการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น การเผาผลาญพลังงานไม่ดี นอนไม่หลับ ผิวพรรณไม่สดใส เป็นต้น ซึ่งแพทย์มักจะซักประวัติและตรวจร่างกาย เพื่อให้ทราบถึงการใช้ชีวิตประจำวัน การรับประทานอาหาร อันเป็นสาเหตุใหญ่ๆ ของการขาดวิตามิน
ทั้งนี้การซื้อวิตามินกินเองในช่วงที่ร่างกายมีความเครียดหรือรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน หากเป็นวิตามินจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน กินในที่ระบุไว้ จะถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่เราต้องรู้ว่าร่างกายเราขาดวิตามินตัวนั้นๆ จริง หรืออยู่ในภาวะที่ร่างกายต้องใช้วิตามินตัวนั้นสูงกว่าปกติแค่ไหน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
วิจัยพบวิตามินรวม ชะลอวัยและโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้
วิตามินเฉพาะบุคคล เสริมภูมิคุ้มกัน