“เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล” ทำหิวง่าย-อ้วนขึ้นแนะทริคดื่มน้ำลดน้ำหนัก

คนส่วนใหญ่ยังคงเข้าใจผิดว่า เครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล สามารถช่วยลดน้ำหนัก หรือช่วยผู้ป่วยเบาหวานให้สามารถดื่มน้ำอัดลมได้ แต่ความจริงแล้วเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะน้ำอัดลมที่ไม่มีน้ำตาลนั้น มีส่วนประกอบเหมือนน้ำอัดลม สูตรปกติทั้งน้ำ สารปรุงสี กลิ่นสังเคราะห์และกรดฟอสฟอริก ทำให้น้ำอัดลมมีฟอง มีรสซ่า และมีคาเฟอีน แต่ใช้สารให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียมทดแทนน้ำตาลลงไป สารประเภทนี้ให้รสหวาน แต่ไม่ให้พลังงาน

5 เครื่องดื่มแก้ง่วงยามบ่าย เติมไฟเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าในการทำงาน

6 สุดยอดเครื่องดื่มอายุยืน ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์-โรคหัวใจ ร่างกายอักเสบ

ข้อเสียของเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล 

• กระตุ้นกลไกการทำงานของสมองให้รับรู้ถึงความหวาน ส่งผลให้ร่างกายโหยหาน้ำตาลมากขึ้น
• เกิดการติดรสหวาน ต้องการกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มรสหวานบ่อยขึ้น
• ร่างกายหิวง่ายขึ้นและกินมากกว่าปกติ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเป็นการกินไปแบบไม่รู้ตัว ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและเสี่ยงต่อโรคมากขึ้นไปอีก  
• ส่งผลให้ระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือดขึ้นสูงขึ้น

ถึงแม้จะใช้สารทดแทนความหวานแต่ที่ยังมีอยู่ในน้ำอัดลมคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ทำให้ท้องอืด จุกเสียดได้ แน่นอนว่าการหลีกเลี่ยงดื่มน้ำอัดลมไม่ว่าจะสูตรมีน้ำตาลหรือสูตรปกติเป็นเรื่องที่ควรทำหรือนานๆดื่มทีแก้กระหายก็ได้แต่ไม่ควรดื่มแทนน้ำเปล่าเพราะนั้นหมายถึงการเร่งเวลาร่างกายให้เสื่อมโทรมไวจนเราอาจตั้งรับไม่ทันก็ได้

ดื่มน้ำเปล่าให้ดีต่อร่างกายลดน้ำหนักบอกลาน้ำตาล

น้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่ร่างกายของเราต้องการในแต่ละวัน เพื่อดูแลอวัยวะต่าง ๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ด้วยสภาวะปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ความเร่งรีบในการใช้ชีวิต การทำงานหรือกิจกรรมที่เราต้องจดจ่อสมาธิมากเป็นพิเศษจนทำให้หลงลืมที่จะดูแลตัวเอง รู้หรือไม่? ในหนึ่งวันจึงควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน ซึ่งการดื่มน้ำ ยังช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก ด้วยเพราะน้ำจะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น เนื่องจากน้ำทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง ร่างกายจึงต้องเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดสมดุล ความร้อน ส่งผลให้อาหารและพลังงานถูกเผาผลาญตามไปด้วยและยังช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกิน

ข้อดีของการดื่มน้ำเปล่า

• การดื่มน้ำช่วยร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ดื่มน้ำตอนเช้าจะช่วยให้สมองได้รับการกระตุ้นหลังจากตื่นนอน เพิ่มสมาธิในการเริ่มวันใหม่
•  ดื่มน้ำก่อนทานอาหาร 30 นาที จะช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลง และย่อยง่ายขึ้น
• ดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนัก การดื่มน้ำมีส่วนช่วยในการกระบวนการเผาผลาญไขมันได้ดี
•  การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการร่างกาย มีส่วนช่วยให้ลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะน้ำนั้นจะเข้าไป
• ความหนืดข้นของเลือด ช่วยระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดของเราไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
•  การดื่มน้ำช่วยให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้น สุขภาพดี

5 อาหารทำลายกระดูก กินบ่อยๆ เสี่ยงกระดูกบาง-หักง่าย

เทคนิคการดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนัก

• ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอน ในเวลา 06.00 - 07.00 น. เพื่อช่วยลดภาวะขาดน้ำจากการนอนหลับ ลดความข้นหนืดของเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและกระตุ้นการขับถ่าย 
• ดื่มน้ำ 1 แก้ว ช่วงเช้า เวลา 08.00 - 09.00 น. โดยดื่มน้ำก่อนมื้อเช้า 15 - 20 นาที แล้วค่อยกินมื้อเช้าเพราะถ้ากินอาหารและหลังอาหารให้จิบน้ำเพียงครึ่งแก้ว 
• ควรดื่มน้ำ 2 - 3 แก้ว ระหว่างวัน ในช่วงเวลา 09.00 - 13.00 น. โดยดื่มไปเรื่อยๆ เพื่อลดการสูญเสียน้ำในระหว่างวัน 
• ดื่มน้ำ 2 แก้ว ช่วงบ่ายและเย็น เวลา 13.00 - 17.00 น. จะช่วยแก้กระหาย และทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น และดื่มน้ำ 2 - 3 แก้ว 
• ช่วงเย็นและก่อนนอน เวลา 18.00 - 22.00 น การดื่มน้ำช่วงเย็น ให้ดื่มก่อนและหลังกินมื้อเย็น และแบ่งบางส่วนไปดื่มช่วงก่อนนอน เพื่อช่วยชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และป้องกันร่างกายขาดน้ำขณะนอนหลับ 

หากเบื่อน้ำเปล่าแล้วแนะบีบมะนาวลงไปสักหน่อยเพิ่มรสชาติ หรือจะเปลี่ยนมาเป็นชาสมุนไพรที่ไม่ผสมน้ำตาลก็สามารถจิบได้ตลอดทั้งวัน แต่ชานั้นแนะนำควรหลีกเลี่ยงก่อนเข้านอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพราะอาจกระทบกับการนอนหลับของคุณได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล,กรมอนามัย และ กรมประชาสัมพันธ์

ความเชื่อน้ำอัดลมช่วยทำให้เรอเพื่อระบายลมในท้อง-หายท้องร่วง จริงหรือไม่?

8 สุดยอดเครื่องดื่ม อุดมประโยชน์ ต้านสารก่อโรคป้องกันอักเสบเรื้อรัง