“วิตามิน”เสริมสร้างภูมิต้านทาน ไม่ป่วยง่าย ทำลายกระบวนการเชื้อโรค
เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน หลายคนครั่นเนื้อครั่นตัว และป่วยง่าย อาจเกิดจากการขาดวิตามิน เช็กเลยมีวิตามินชนิดไหนช่วยเสริมภูมิต้านทานได้บ้าง? แหล่งวิตามินธรรมชาติอยู่ที่ไหน?
ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยหลายคนมีอาการไม่สบาย ภูมิแพ้ ไข้หวัดไหญ่ ไข้เลือดออกและโควิด19 ที่เป็นโรคประจำฤดู ส่งผลให้หลายคนป่วยง่ายขึ้น ทั้งนี้การป่วยง่าย อาจเป็นเพราะร่างกายขาดวิตามินบางชนิด ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยการกินอาหารให้สมดุล และเพิ่มอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ด้วยการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกกินอาหารที่ปล่อยพลังงานช้าและมีเส้นใยปรับสมดุลการขับถ่าย เช่น ข้าวไม่ขัดสี ธัญพืช ผักผลไม้หลากสีสัน
“วิตามิน” ไม่ควรกินทั้งหมดตอนเช้า เช็กเลยเวลาไหนได้ผลดีที่สุด
6 กลุ่มอาหารป้องกัน “โรคภูมิแพ้” บอกลาหวัดร่างกายแข็งแรง
หลีกเลี่ยงอาหารผ่านการแปรรูป เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก แหนม และอาหารปิ้งย่างเขม่าดำ อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับผู้ที่กังวลว่าจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอหรือต้องการเสริมภูมิต้านทาน
4 วิตามิน ช่วยเสริมภูมิต้านทาน
- วิตามินซี
ขนาด 500-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากวิตามินซี ช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาวและช่วยกระบวนการทำลายเชื้อโรค ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เนื่องจากขนาดปกติที่ควรได้รับตามความต้องการต่อวันในคนสุขภาพดีนั้นแตกต่างกันออกไป เช่น
- ในเด็กอายุ 1-8 ปี ควรได้รับ 25-40 มิลลิกรัมต่อวัน
- ในเด็กและวัยรุ่นช่วงอายุ 9-18 ปี ควรได้รับ 60-100 มิลลิกรัมต่อวัน
- วัยผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 85-100 มิลลิกรัมต่อวัน
ซึ่งสามารถได้จากอาหารและผลไม้ทั่วไป เช่น ฝรั่ง ส้ม เชอร์รี่ เบอร์รี่ต่างๆ กีวี มะขามป้อม พริกหวาน บรอกโคลี ผักคะน้า ผักปวยเล้ง เป็นต้น
- วิตามินดี
ไม่เพียงแค่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย แต่ยังเป็นวิตามินที่มีบทบาทกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวโมโนไซต์และมาโครฟาจซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สำคัญในการช่วยลดการอักเสบ ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่ปกติแล้วเราสามารถรับวิตามินดี ได้จากปลาต่างๆ นม ไข่แดง ชีส ตับปลา ตับสัตว์ เห็ด ทั้งนี้การรับประทานเสริมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในขนาดที่เหมาะสมในแต่ละคน
วิตามินดี ลดเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ช่วยปรับสมดุลในเลือดป้องกันเบาหวาน
- สังกะสี
นอกจากดูแลสุขภาพผิวพรรณ ผม ขน เล็บ และระบบสืบพันธุ์แล้ว ยังมีส่วนกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวหลายชนิด ปกติแล้วในอาหารที่อุดมด้วยสังกะสี เช่น หอยนางรม เนื้อสัตว์และเครื่องใน สัตว์ปีก ปลา ไข่ นม เมล็ดฟักทอง ธัญพืชต่างๆ การรับประทานเสริมในผู้ที่สุขภาพดี แนะนำ 15-45 มิลลิกรัมต่อวัน ในขนาดที่สูงกว่านี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
- กรดไขมันโอเมก้า 3
ปกติแล้วจะช่วยเสริมสร้างเซลล์ประสาทในสมอง จอประสาทตา เสริมสร้างการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ลดการอักเสบซ่อนเร้นที่เกิดจากความเครียด ยังมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว ซึ่งปกติเราสามารถได้รับจากแหล่งอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาและอาหารทะเล น้ำมันปลา ถั่วต่างๆ น้ำมันพืช เป็นต้น ส่วนในอาหารเสริมสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีแนะนำให้รับประทาน 500-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน
ทั้งนี้ควรกินอาหารอย่างเหมาะสมและรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ด้วยการออกกำลังหายเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานที่แข็งแรงลดพุงลดโรค
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช
“วิตามิน” กินมากไปเสี่ยงตับทำงานหนัก แนะปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน
วิตามินอะไรเหมาะกับเรา? กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดไม่สิ้นเปลือง