“น้ำมันมะพร้าว” ช่วยควบคุมน้ำหนัก-ลดไขมันในเลือดได้จริงหรือไม่?
ตัวช่วยของผู้หญิง ที่ขึ้นชื่อเรื่องดูแลความสวยความงาม หลายคนคงนึกถึงน้ำมะพร้าวที่มีมีวิตามินอีอยู่มากจึงเป็นเสมือนโลชั่นทาผิวชั้นดีในการบำรุงและถนอมผิวพรรณของเรา แต่หากพูดในแง่ของการกินเพื่อลดไขมันหรือลดระดับน้ำตาลในเลือดอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะจัดเป็นกลุ่มไขมันอิ่มตัวชนิดหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจมากยิ่งขึ้น!
น้ำมันมะพร้าว คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อของมะพร้าว จัดเป็นกลุ่มไขมันอิ่มตัวชนิดหนึ่ง (Saturated Fat) โดยมีงานวิจัย พบว่าไขมันชนิดนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดคอเรสเตอรอลในเลือดสูง ทำให้คนไข้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมากขึ้น แต่ไขมันอิ่มตัวไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว นักวิจัยได้แบ่งไขมันชนิดนี้ออกเป็นกลุ่มย่อยอีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Long chain fatty acids และ กลุ่ม Medium chain fatty acids
4 อาหารคนวัยทอง ป้องกันอาการ “เลือดจะไป ลมจะมา” รักษาสมดุลฮอร์โมน
5 อาหาร “ไขมันดี” ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
กรดไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าว
- กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง หรือ Medium chain fatty acid (63%) ซึ่งส่วนมากคือกรดลอริก (Lauric acid) ที่เป็นไขมันโมเลกุลป่านกลางในน้ำมันมะพร้าว ยังไม่มีหลักฐานว่าถูกเผาผลาญได้ดีกว่าหรือสะสมในเนื้อเยื่อไขมันน้อยกว่าไขมันตัวอื่น
- กรดไขมันอิ่มตัวสายยาว หรือ Long chain fatty acids (30%) พบได้ใน นม เนย ชีส (Dairy products) และ ไขมันจากสัตว์ ทุกชนิด (Animal fats) ซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ และควรหลีกเลี่ยง
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวสายยาว (7%)
ผลการศึกษาของน้ำมันมะพร้าว
เมื่อเปรียบเทียบผลต่อสุขภาพระหว่างน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันชนิดอื่น ๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก และน้ำมันดอกคำฝอย พบว่า
- น้ำมันมะพร้าวทำให้ไขมันเลวชนิด LDL-C เพิ่มขึ้นประมาณ 10 มก./ดล.
- น้ำมันมะพร้าวทำให้ไขมันดีชนิด HDL-C เพิ่มขึ้นประมาณ 4 มก./ดล.
- น้ำมันมะพร้าวไม่ทำให้น้ำหนักตัวและค่า BMI เปลี่ยนแปลง การที่ไขมันเลว (LDL-C) สูงขึ้นอาจจะเพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวประกอบไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่ดีทั้ง 2 ชนิด ในทางการแพทย์เวลาจะใช้กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง จะมีการนำน้ำมันมะพร้าวไปสกัดเพื่อแยกออกมาให้เหลือเฉพาะกรดไขมันอิ่มตัวสายกลางเท่านั้น จึงนำไปใช้ประโยชน์ได้ แตกต่างจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่มีขายทั่วไปในท้องตลาด ไม่แนะนำให้รับประทานแต่กลับกันเหมาะมากสำหรับการใช้ในการฆ่าเชื้อโรคและ บำรุงผิวพรรณ
10 อาหารโพรไบโอติกส์สูง ส่งเสริมระบบทางเดินอาหารป้องกันไขมันพอกตับ
ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว
- ช่วยฆ่าเชื้อโรค(Natural antiseptic) กรดลอริก ในน้ำมันมะพร้าว เป็นสารปฏิชีวนะจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์ ในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียได้ ดังนั้นการกลั้วคอ และการอมน้ำมันมะพร้าว (oil pulling) สามารถช่วยทำลายเชื้อโรคในช่องปากและลำคอได้ แต่ไม่ควรกลืนน้ำมันมะพร้าวลงคอ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ มีวิตามินอี อุดมอยู่มาก จึงเป็นเสมือนโลชั่นทาผิวชั้นดีในการบำรุงและถนอมผิวพรรณของเรา อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาผิวแห้งกร้าน ริมฝีปากแตก และรอยแตกลายหลังคลอด
ไม่ควรรับประทานน้ำมันมะพร้าวเพื่อควบคุมน้ำหนัก หรือเพื่อลดไขมันในเลือด แต่ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกาย รวมถึงรับประทานยาลดไขมันในเลือดที่แพทย์เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : BDMS Wellness Clinic และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ภาพจาก : freepik
“แอปเปิลไซเดอร์” อุดมกรดอะซิติก อาจช่วยลดไขมันป้องกันกรดไหลย้อน
สธ.ยัน ยังไม่มีวิจัยชี้ “ไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป” เป็นสารเร่งไขมันพอกตับ