5 กลุ่มอาหารลดความเสี่ยงยับยั้งมะเร็ง ต้านการอักเสบ ปกป้องเซลล์
ผักผลไม้แหล่งอาหารชั้นดี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงอีกทั้งยังต้านมะเร็งด้วย!
พืชผักผลไม้หลายชนิดมีสารเคมีธรรมชาติ ที่มีศักยภาพในการป้องกันหรือยับยั้ง การเกิดโรคมะเร็ง เรียกว่า สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สารนี้จะลดจำนวนอนุมูลอิสระในร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ซีลีเนียม วิตามินอี วิตามินซี เบต้า-แคโรทีน และไลโคปีน เป็นต้น ซึ่งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สับปะรด องุ่น ส้ม มะกรูดตำลึง แตงโม มะละกอสุก มะม่วงสุก ข้าว ข้าวโพด หอมใหญ่ กระเทียม ผักหัวตระกูลขมิ้น และเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ ถ้าได้รับประทานเป็นจำนวนมากและสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยง การเป็นมะเร็งได้
“เมล็ดเจีย” ตัวช่วยคุมน้ำหนัก โปรตีนสูงกว่าแมงลัก มีน้ำมันโอเมก้า 3!
พืชโปรตีนสูง 10 อันดับ ทางเลือกเพื่อสุขภาพ ไม่กินเนื้อก็มีโปรตีนได้!
Freepik/user16884622
ผักผลไม้

5 กลุ่มผักผลไม้ต้านมะเร็ง
- พืชตระกูลกะหล่ำ เช่น บร็อคโคลี กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ กวางตุ้ง ผักกาดขาว และหัวผักกาด เป็นต้น
คุณสมบัติพืชตระกูลกะหล่ำ
- ดูดซับสารพิษที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง
- ต้านการอักเสบ และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
- ปกป้องเซลล์จากรังสีอุลตร้าไวโอเลต
- ช่วยการไหลเวียนของเลือด
- ลดคลอเรสเตอรอล
- การลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
ผู้ที่รับประทานพืชตระกูลกะหล่ำเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นต้น
- พืชตระกูลหอม กระเทียม เช่น หอมใหญ่ หอมแดง กระเทียม ผักกุยช่ายและดอกหอม เป็นต้น
คุณสมบัติพืชตระกูลหอมกระเทียม
- กระตุ้นเอนไซม์ในการทำลายพิษ
- ยับยั้งการทำงานของเซลล์มะเร็ง
- ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง
- ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
- การลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
ผู้ที่รับประทานพืชตระกูลหอม กระเทียมเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งหลอดอาหาร เป็นต้น
ผักผลไม้ที่มีสารไลโคปีน เช่น มะเขือเทศ องุ่น แตงโม และสตรอว์เบอร์รี เป็นต้น
- กระตุ้นเอนไซม์ในการทำลายพิษ
- ยับยั้งการทำงานของเซลล์มะเร็ง
- ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง
- ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
ผู้ที่รับประทานผักผลไม้หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารไลโคปีนเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็ง ต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น
- ผักผลไม้ตระกูลส้ม เช่น ส้มชนิดต่าง ๆ มะกรูด และมะนาว เป็นต้น
คุณสมบัติพืชตระกูลส้ม
- ต้านการอักเสบ
- ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด
- ต้านอนุมูลอิสระ
- ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง
- กระตุ้นเอนไซม์ทำลายพิษสารก่อมะเร็ง
ผู้ที่รับประทานผักผลไม้ตระกูลส้มเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม และมะเร็งปอดนอกจากนี้ ผักผลไม้ตระกูลส้มยังมีคุณสมบัติป้องกันโรคอื่น ๆ เช่น ป้องกันโรค ลักปิดลักเปิด และลดการสร้างคลอเลสเตอรอล เป็นต้น
5 ผลไม้ฤดูฝน วิตามินซีสูง ต้านหวัดเสริมภูมิต้านทาน พ่วงใยอาหาร!
ถั่วเหลือง ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง และโปรตีนจากถั่วเหลือง เป็นต้น
คุณสมบัติพืชถั่วเหลือง
- ต้านอนุมูลอิสระ
- ยับยั้งการเจริญของเนื้องอกและเซลล์มะเร็งที่เกี่ยวข้องกับ
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ เป็นต้น
ผู้รับประทานถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งปอด
กินผัก ผลไม้ต้านมะเร็งได้ แต่หากไม่ถูกเป็นมะเร็งได้!
การได้รับสารเคมีตกค้างจากผักผลไม้ในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด ท้องร่วง หรือหากรุนแรงมากก็อาจจะถึงขั้นทำให้หัวใจวายและเสียชีวิตได้ ส่วนการได้รับสารเคมีครั้งละน้อยๆ แต่เป็นเวลานานต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของสารพิษในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ เช่น มะเร็งเต้านมในผู้หญิง
ล้างผักผลไม้ปลอดภัยจากสารตกค้าง
- นำผักผลไม้แช่ในน้ำผสมเกลือ หรือน้ำผสมส้มสายชู ทิ้งไว้ 10-15 นาที
- นำผักมาล้างน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบ เพื่อล้างสารตกค้างออกให้หมด
- ลอกเปลือกผลไม้ด้านนอกออกให้หมด แล้วล้างผ่านน้ำสะอาดนาน 2 นาที
- ควรหลีกเลี่ยงการกินผักผลไม้นอกฤดูกาล เนื่องจากมักมีการใช้สารเคมีเพื่อการคงสภาพ
กินผักผลไม้อย่างพอดี ให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน
- ควรกินผักให้เพียงพอ โดยในเด็กควรกินผักให้ได้วันละ 12 ช้อนหรือ 4 ทัพพี และในผู้ใหญ่ควรกินผักให้ได้วันละ 18 ช้อน หรือ 6 ทัพพี
- แนะนำให้กินผลไม้วันละ 400 กรัม แต่ต้องระวังการกินผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง
- กินผักและผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อให้ได้รับวิตามินต่างชนิดกัน
ผักและผลไม้ควรกินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ช่วยลดการดูดซึมไขมัน ช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งยังช่วยต้านมะเร็งหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
ไม่อยากแก่ง่าย! แพทย์แนะ เลือกกินคาร์บดี-เลี่ยงน้ำตาล กินหลากหลาย