“ซื้อยามากินเอง” เสี่ยงโรคไต เผยกลุ่มยาอันตราย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกิน
หลายคนยังติดนิสัย ซื้อยามากินเอง ไม่ว่าจะเป็น ยาชุด หรือยาแผนปัจจุบัน เพราะคิดว่า กินแล้วเป็นผลดีต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ ? เป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายระบบไตโดยไม่รู้ตัว
หน้าที่ของไต คือการกำจัดของเสียและสารต่างๆ ที่เกิดจากการเผาผลาญในร่างกาย ในรูปแบบของการขับปัสสาวะ ซึ่งหนึ่งในสารที่ไตต้องทำหน้าที่กำจัดคือ ยาและสารต่างๆ จึงเป็นเหตุผลให้ไตมีความเสี่ยงสูงที่อาจได้รับอันตรายจากพิษของยาและสารเคมีบางชนิดได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความบกพร่องของไตหรือจำเป็นต้องทานยาที่มีผลต่อไตโดยตรงเป็นระยะเวลานาน
ใช้ยาไม่เป็นภัยต่อไต
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกินยา
- ยาก่อนอาหาร ควรกินก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาที โดยควรรับประทานในขณะที่ท้องว่าง หากลืมรับประทานควรข้ามยามื้อที่ลืมไป
ยาคลายกล้ามเนื้อ กินอย่างไรให้ปลอดภัย กินเยอะไปเสี่ยงเป็นพิษต่อไต!
ยาเสริมธาตุเหล็กฟรี ที่ได้รับหลังบริจาคเลือด ควรกินหรือไม่?

- ยาหลังอาหาร ควรกินยาหลังมื้ออาหาร 15 - 30 นาที (ในส่วนของยาที่ต้องทานหลังอาหารทันที ให้รับประทานทันทีหลังจากที่ทานอาหารเสร็จ)
- ยาก่อนนอน ควรกินยาก่อนเข้านอน 15 - 30 นาที
โดยยาบางประเภทอาจมีวิธีการรับประทานยาที่นอกเหนือจากข้อบ่งชี้ข้างต้น เนื่องจากยาอาจมีการออกฤทธิ์พิเศษหรือมีผลข้างเคียงอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาซ้ำซ้อน หรือยาที่มีฤทธิ์คล้ายกัน นอกจากจะไม่ช่วยเพิ่มผลการรักษาแล้ว ยังเพิ่มผลเสียต่อการทำงานของไต และก่อให้เกิดอาการข้างเคียงได้
- หลีกเลี่ยงการยาชุด ยาสมุนไพร หรืออาหารเสริมที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนระบุตัวยา เนื่องจากยาเหล่านี้อาจมีส่วนประกอบของสารที่เป็นอันตรายและเป็นพิษต่อการทำงานของไตได้
หากมีการเข้ารับการบริการทางแพทย์แล้วมียาที่ใช้อยู่ประจำ ให้นำยานั้นมาโรงพยาบาลด้วยทุกครั้ง และแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลเกี่ยวกับยาที่ใช้เป็นประจำ
อาการดื้อยา ติดยานอนหลับ กินนานไม่ระวังเสี่ยงผลข้างเคียง!
ยาประเภทไหนบ้างที่ควรระวัง!?
- กลุ่มยา NSAIDs หรือยาแก้ปวดลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยากลุ่มนี้มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดต่างๆ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และอื่นๆ การรับประทานยาชนิดนี้มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนเลือดในไต และทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้
- โดยยาปฏิชีวนะบางชนิดอาจมีผลกระทบต่อการทำงานยาปฏิชีวนะบางชนิด ของไต โดยเฉพาะเมื่อใช้เป็นระยะเวลานานหรือใช้ขนาดยาเกินกำหนด
- ยาฆ่าเชื้อหรือยาต้านไวรัสบางชนิด บางยาต้านไวรัสอาจมีผลกระทบต่อไต โดยเฉพาะเมื่อใช้ในปริมาณมากหรือในระยะเวลานาน รวมถึงไม่ปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งคัด เช่น ดื่มน้ำตามเยอะๆ หลังรับประทานยา
- ยาต้านเกร็งกล้ามเนื้อหัวใจ บางชนิดของยาต้านเกร็งกล้ามเนื้อหัวใจอาจมีผลกระทบต่อการไหลเวียนเลือดในไต
การรับประทานยาที่มีผลต่อการทำงานของระบบไตที่ทำให้ไตทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือการได้รับยาเกินขนาด อาจส่งผลให้การทำงานของไตมีความผิดปกติ ซึ่งอันตรายที่จะตามมาอาจทำให้หัวใจเต้นผิดปกติหรือหยุดเต้นได้โดยที่เราเป็นผู้นำสารพิษเข้าสู่ร่างกายเอง ดังนั้นการรับประทานยาทุกชนิดควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เภสัชกรอย่างเคร่งคัด ที่สำคัญไม่ควรซื้อยามาทานเองเด็ดขาด หากพบอาการผิดปกติจากการใช้ยาควรหยุดยาและรีบพบแพทย์โดยเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
วิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง ป้องกันการพลาดตั้งครรภ์ ลดผลข้างเคียง!