“ชาเขียว” ดื่มให้ได้ประโยชน์สูงสุด รักษาสารคาเทชินเข้มข้นมากกว่า
เปิดเคล็ดลับดื่มชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ให้เกิดผลร้ายจากน้ำตาลมากกว่าผลดีของสารคาเทชิน ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ลดความอ้วน เพิ่มระบบเผาผลาญ
ชาเขียว นับเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยอดฮิตเป็นกระแสไม่แผ่ว ไม่แพ้กับกาแฟที่หลายคนเสพติดความอร่อยและความนัวและหอมของชาเขียว จนถูกนำไปพัฒนาต่อยอดในหลากหลายเมนูขนมแสนอร่อย รวมไปถึงเทคนิคการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาเขียว หรือข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสรรพคุณของชาเขียวที่มีต่อร่างกาย ที่อาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือด ลดความอ้วน เพิ่มระบบเผาผลาญ รวมไปถึงป้องกันโรคมะเร็ง เป็นต้น

เป็นแรงจูงใจทำให้กระแสการบริโภคชาเขียวเพิ่มขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วชาเขียวก็เหมือนกันเครื่องดื่มและอาหารทั่วไปที่ถึงแม้จะมีประโยชน์แต่ควรรับประทานแต่ให้เหมาะสมเช่นกัน
สารสำคัญในชาเขียว
จะประกอบไปด้วยกรดอะมิโน วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี สารในกลุ่ม xanthine alkaloids คือ คาเฟอีน และธิโอฟิลลีน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่เรียกว่า คาเทชิน ซึ่งในการดื่มชาเขียวให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เนื่องจากจะทำหน้าที่จับกับอนุมูลอิสระและขัดขวางการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยต้านโรคภัยได้มากมาย เช่น ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ฝาดสมานและเป็นสารที่ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย จึงเป็นไปได้ ถ้าดื่มชาปริมาณมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวแบบชง หรือ แบบพร้อมดื่ม ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกได้เช่นกัน
ชาเขียวดื่มในปริมาณเท่าไรจึงจะได้ประโยชน์
ชาเขียวให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระ จะต้องชงชาเขียวเข้มข้นแบบญี่ปุ่นและต้องดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละ 20 แก้ว เป็นประจำทุกวัน จึงจะสามารถป้องกันมะเร็งได้ ซึ่งทางปฏิบัติอาจทำได้ยาก และยิ่งการดื่มน้ำชาเขียวปัจจุบันเป็นชาเขียวที่เจือจาง ทั้งยังปรุงรสแต่งกลิ่นและรสด้วยน้ำตาล ซึ่งหากดื่มมาก ๆ อาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้
ส่วนการดื่มชาร้อนนั้น มีผลวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระในชาจะหายไปประมาณ 20% หากโดนความร้อนนาน ๆ และให้เคล็ดลับการชงชาเขียวให้สารต้านอนุมูลอิสระคงอยู่ ทำได้โดยบีบมะนาวลงไประหว่างชงชา จะคงประโยชน์ของชาไว้ได้มากที่สุด
ดื่มชาเขียวแบบไหนเป็นประโยชน์ที่สุด ?
การชงชาด้วยตนเอง นอกจากจะได้อรรถรสของการดื่มชาแล้วยังให้สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีกว่า ส่วนการบริโภคชาเขียวสำเร็จรูปซึ่งผ่านกระบวนการผลิต สารสำคัญบางส่วนถูกทำลายไป และมีการเติมน้ำตาลเป็นส่วนผสมค่อนข้างสูง ซึ่งอาจมีผลเสียต่อภาวะโภชนาการ ของสารอาหารอื่นได้
ดื่มชาเขียวให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
- ชาร้อนๆ ควรชงชาดื่มเอง ดื่มน้ำชาที่เข้มข้นในถ้วยชาใบจิ๋ว ความเข้มข้นของใบชาจะทำให้มีปริมาณสารแคททีชินที่เข้มข้น
- ชาเขียวหรือ สารสกัดจากใบชาสด หากนำมาเตรียมเป็นเครื่องดื่มแช่เย็น ความเย็นจะช่วยรักษาคุณค่าของสารสำคัญในใบชาไว้ได้ดี อย่างไรก็ตามหากกระบวนการผลิตเครื่องดื่มชาเขียวต้องผ่านกระบวนการต้มหรือทำให้ร้อนในขบวนการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ก่อนบรรจุลงในขวดปริมาณสารสำคัญในน้ำชาก็จะถูกทำลายไปเช่นกัน
- การดื่มน้ำชาไม่ว่าจะชาร้อนหรือชาแช่เย็นควรดื่มชาล้วนๆ ไม่ควรแต่งรสด้วยนมทุกชนิด ไม่ว่าจะน้ำนมสด นมข้นหรือนมผงเพราะโปรตีนในนมจะไปจับกับสารสำคัญในชาและขัดขวางประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่ม น้ำชาร่วมกับอาหาร เพราะสารบางชนิดจากใบชาจะไปขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิดไม่ให้ถูกดูดซึม เข้าสู่ร่างกาย และ
- ใบชามีสารคาเฟอีนในปริมาณสูงอาจสูงกว่าในเมล็ดกาแฟ แต่การดื่มน้ำชา สารแทนนินจากน้ำชาจะป้องกันหรือลดการดูดซึมของคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ฤทธิ์การกระตุ้นหัวใจ และสมองน้อยกว่ากาแฟมาก
ทั้งนี้ การดื่มชามีทั้งคุณและโทษต่อร่างกายขึ้นอยู่กับการบริโภค ถ้ามากเกินไปก็เกิดโทษได้ ในการนำสารสกัดชาเขียวไปผสมกับอาหารชนิดอื่นๆ เช่น ขนมเค้ก คุณค่าชาเขียวก็จะลดลง ควรหลีกเลี่ยงการนำผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสกัดชาเขียวไปผ่านกระบวนการความร้อนเพื่อคงคุณค่าของชาเขียว และที่สำคัญคือควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวันก็จะมีผลดีต่อสุขภาพ